เปิดประวัติ อดีต สส.อุดรธานี กลายเป็นคนเร่ร่อน สติเลอะเลือน เผยฉายาสมัยเล่นการเมือง เคยเป็นครู มีลูกศิษย์จำนวนมาก ด้าน ลูกหลาน เผยสาเหตุดูแลไม่ได้
จากกรณีมีการเปิดเผยบั้นปลายชีวิตของ นายสม วาสนา อายุ 83 ปี อดีตครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอโนนสัง จ.อุดรธานี ในขณะนั้น ปัจจุบันคือ จ.หนองบัวลำภู และอดีต สส.พรรคสยามใหม่ กลายเป็นคนเร่ร่อน สติไม่ดี และไม่มีลูกหลานมาเยี่ยม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 6 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหมู่บ้านโสกจาน ต.บ้านค้อ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู พบ นายคนอง ลาวงศ์ อายุ 79 ปี อดีตข้าราชการครูและเจ้าหน้าที่บริหารงานการเงิน สปอ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ในขณะนั้น และอดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลโนนสัง 12 ปี
และ นางสุพิญญา ตั้งสกุลวิโรจน์ อายุ 60 ปี พร้อมด้วย นางสมบัติ นครศรี อายุ 57 ปี ชาวบ้านโสกจาน ได้ร่วมกันเล่าถึงชีวิตของ นายสม วาสนา ในอดีต ว่า นายสม เคยเป็นครูสอนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.โนนสัง จ.อุดรธานี ซึ่งปัจจุบันได้ยุบเลิกกิจการแล้ว และมีลูกศิษย์ที่เจริญในหน้าที่การงานมากมาย
และในช่วงหนึ่งของชีวิต นายสม เป็นผู้ที่มีโวหาร พูดเก่ง มีความกล้า หน้าตาสมัยหนุ่มก็รูปหล่อ จึงได้สมัคร สส.สมัยแรก ถ้าจำไม่ผิดสังกัดพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ที่มี พ.อ.สมคิด ศรีสังคม คนอำเภอสร้างคอม จ.อุดรธานี เป็นหัวหน้าพรรค
และได้รับการคัดเลือก เป็น สส.ในสมัยนั้น และเป็น สส.สมัยเดียว ถ้าจำไม่ผิด สส.ขณะนั้นมี นายเติม สืบพันธุ์, นายแสวง พิบูลย์ศราวุธ เป็น สส.ของจังหวัดอุดรธานี
ในอดีต นายสม เป็นคนที่มีวาทะในการพูดเก่งมาก หน้าตาหล่อ และในช่วงเป็น สส.ถ้าจำไม่ผิดจริยธรรมของนักการเมืองในอดีตกับปัจจุบันก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ว่ามีการขายตัว ขายเสียง จน สส.ในแต่ละยุคได้รับสมญานามอย่างปัจจุบันว่า สส.งูเห่า สส.กินกล้วย อะไรประมาณนั้น
และ นายสม อดีต สส.ในสมัยนั้นเปลี่ยนไปสนับสนุนฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง จึงได้รับฉายา ว่า “หนังหมา” ซึ่งเป็นฉายาที่ได้จากหนังสือพิมพ์ ทำให้ประชาชนในพื้นที่สมัยนั้นต่างรู้จักกันดี สำหรับ สส.ที่ไปยกมือสนับสนุนฝั่งตรงข้าม
หลังจากสิ้นสุดการเป็น สส.ในสมัยนั้น ชีวิตของ นายสม ก็เงียบหายไปกับกระแสสังคม หลังภรรยาและลูกคนแรกได้เสียชีวิต จากนั้นญาติทางบ้านโสกจาน ซึ่งมีพี่สาวและพี่เขย ก็ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา
จึงไม่สามารถสืบทราบที่อยู่และหลักแหล่งได้ เพียงแต่ทราบว่าหลังจากยุติทางการเมืองได้ภรรยาอีกและมีลูกสาวทำงานอยู่ที่ จ.ลำปาง แต่พักหลังก็ขาดการติดต่อกับทางบ้าน ไม่ได้กลับมาอีกเป็นเวลาหลายปีแล้ว
ด้าน ลูกหลานของนายสม กล่าวว่า มาพักหนึ่ง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ หลานสาวของ อดีตสส.ผู้เฒ่า ที่อยู่บ้านโสกจาก เล่าให้ฟังว่า นายสม เคยเดินทางมาเยี่ยมบ้านเกิด ในช่วงนั้นดูสภาพร่างกายเหมือนคนไม่สมประกอบ ดูแล้วเหมือนคนจิตไม่ปกติเหมือนคนทั่ว ๆ ไป จนต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล
แต่หมอบอกว่า ยังไม่ถึงจุดอันตราย จึงให้กลับมาบ้าน ขณะที่อยู่บ้านพูดจาเลอะเลือน ทวงถามหาที่ดิน ทรัพย์สิน สมัยพ่อแม่แบ่งปันให้ ถึงขั้นจะทำร้ายกับลูกหลาน
โดยทาง ลูกหลานของนายสม กล่าวว่า โดยสภาพครอบครัวตนเองก็ลำบาก จึงไม่สามารถที่ดูแลนายสมได้ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย จนมาทราบข่าวจากสื่อที่มีการนำเสนอ
ลูกหลาน กล่าวด้วยว่า ก็อยากจะวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมกับลูก ๆ ของ นายสม ได้ออกมาแสดงตนเพื่อนำกลับไปดูแลรักษายังบ้านเกิดเมืองนอน ไม่อยากให้คนระดับที่เป็น สส.ต้องมาตกระกำลำบากอย่างนี้
ที่มา : มติชน