วันที่ 5 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สวนพลูของนายมาโนช สูญกลาง เกษตรกรชาว ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เป็นพลูสายพันธุ์เขียวและเหลืองที่ขึ้นอย่างสมบูรณ์ในร่องสวนบนพื้นที่ 4 ไร่ เป็นรายได้หลักของครอบครัวนี้มาแล้วกว่า 4 ปี จนสามารถหมดหนี้สิน และส่งลูก 3 คน เรียนในระดับปริญญาตรี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปลูกฝรั่ง ชมพู่ และองุ่นพันธุ์ไวท์มะละกา

นายมาโนช กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลพบว่าพลูเป็นพืชที่น่าสนใจ การดูแลไม่ยุ่งยากปลูกครั้งเดียวก็สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องได้เรื่อยๆ จึงได้ทดลองนำพลูมาปลูกจำนวน 400 หลัก ปัจจุบันได้มีการขยายการปลูกพลู จำนวน 1,200 หลัก แบ่งเป็นพลูเขียว 800 หลัก ลักษณะใบจะบาง ขนาดใหญ่คล้ายใบโพธิ์ มีสีเขียวเข้ม รสเผ็ด นิยมนำไปในงานเกี่ยวข้องกับพิธีกรรม และพลูเหลือง 400 หลัก ลักษณะใบจะมีขนาดเล็ก ปลายใบเรียว รสไม่เผ็ดมากจึงนิยมนำมาบริโภค

นายมาโนช กล่าวต่อว่า พลูเป็นพืชที่ชอบแสงแดดและความชื้น จึงเลือกปลูกพลูแบบร่องสวน และใช้แสลนขึงเพื่อให้เกิดร่มเงา จากนั้นจึงเตรียมเสาสำหรับทำค้างให้พลูเลื้อย สูงจากระดับพื้นดิน 3 เมตร โดยเสา 1 หลัก จะใช้ต้นพันธุ์จำนวน 3 ต้น ปลูกลงในหลุม รดน้ำเช้า-เย็น ต้องหมั่นสังเกตดินจะต้องชื้นแต่ไม่แฉะหรือมีน้ำขังมากเกินไป ใส่ปุ๋ยคอกสลับกับปุ๋ยยูเรีย ทุกระยะ 20 วัน รวมไปถึงป้องกันการเกิดโรคราดำ และโรคแอนแทรคโนส ด้วยการโรยไตรโคโดม่าที่โคนต้น และหมั่นรดน้ำที่ใบพลูล้างน้ำค้างในตอนเช้า

“รอประมาณ 8 เดือน ก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้ ในการเก็บผลผลิตจะเลือกเก็บ จะดูที่ขนาด สี และความหนา คือใบพลูต้องไม่อ่อนหรือแก่เกินไป มีสภาพสมบูรณ์ สีเขียวเข้ม โดยจะทำการเก็บเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งพลู 1 หลักจะสามารถให้ผลผลิตได้ประมาณ 2 กิโลกรัม ทำให้พี่มาโนชมีใบพลูออกจำหน่ายเดือนละกว่า 2,000 กิโลกรัม ราคาที่จำหน่ายอยู่ระหว่าง 30 – 70 บาท” นายมาโนช กล่าว

สำหรับช่องทางการจำหน่ายจะแบ่งเป็นการขายท่อนพันธุ์ โดยพี่มาโนช จะตัดเถาพลูออกเป็นท่อน ให้มีข้อตาติดประมาณ 2-3 ข้อ นำไปปักชำในถุงเพาะ ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จะเกิดรากงอกสมบูรณ์ สามารถส่งขายได้ และอีกรูปแบบคือตัดใบขาย โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงที่หน้าสวน ทั้งนี้ราคาที่จำหน่ายอยู่ระหว่าง 30 – 70 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาความต้องการของตลาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน