เจ้าของร้าน ทองเอก จิวเวลรี่ ร้านทองปลอม อันดับ 1 ลั่นแม้ขายทองปลอม แต่ต้องซื่อสัตย์กับลูกค้า เผยขายตามราคาของไม่แท้ ไม่ใช่แพงเป็นเท่าตัว
นนทบุรี : กรณี นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา (สคบ.) พร้อมทีมงาน สคบ. ลงพื้นที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ย่านหทัยราษฎร์ เพื่อเก็บตัวอย่างทองรูปพรรณ อาทิ กำไลปี่เซียะ และสร้อยคอที่จำหน่ายในร้านไปตรวจสอบว่า เป็นไปตามที่มีการโฆษณาขายหรือไม่ หากฉลากทองไม่ตรงตามคุณภาพของทองที่ขาย จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคนั้น
วันที่ 25 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสำรวจที่ร้านขายทองเสมือนจริง คือ ร้านทองเอก จิวเวลรี่ เลขที่ 58/85 ภายในเมืองทองธานี ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบกับ นายอิงควัต เดชารัตน์ อายุ 41 ปี และ น.ส.จุฑามาศ เดชารัตน์ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยา เป็นเจ้าของร้าน
- หนุ่มเดือด! หอบของแถมจากสร้อยปี่เซียะ โยนทิ้งหน้าร้าน บอกใครยังไม่มีเอาไปได้
- คิวยังยาวเหยียด ลูกค้าแห่คืนทองแม่ตั๊ก ประกาศเลิกซื้อ ไหนบอกทอง 99.99 %
- เปิดผลตรวจสอบ ลูกปัดทองคำ-ปี่เซียะทองคำ ลูกค้าซื้อจากร้าน แม่ตั๊ก กรรชัยเห็นผลถึงร้องลั่น
ซึ่งเปิดจำหน่ายทองไมครอน หรือทองปลอม ซึ่งเคยเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อครั้งราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้นแตะ 4 หมื่นบาท ทำให้ประชาชนที่อยากมีทองรูปพรรณใส่ หันมาซื้อทองปลอมที่ร้านเป็นจำนวนมาก จนทำให้ปัจจุบันร้านทองเอกจิวเวลรี่กลายเป็นร้านจำหน่ายทองปลอมอันดับ 1 และขยายร้านทองเพิ่มจาก 1 คูหาเป็น 3 คูหา เนื่องจากกระแสตอบรับดีขึ้นจนทำยอดขายสูงขึ้นกว่าถึง 3 เท่าตัว
นายอิงควัต เดชารัตน์ อายุ 41 ปี หรือ เอก เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ที่ร้านทองเอกจิวเวอรี่ มีความชัดเจนกับลูกค้าอยู่แล้วว่าร้านเราขายทองปลอมเพียงอย่างเดียว ไม่มีทองเคลือบหรือทองเปอร์เซ็นต์ต่ำมาจำหน่าย ทางร้านขายแต่ทองปลอมในราคาทองปลอม ไม่ได้ขายทองปลอมในราคาสูงเกือบเท่าของจริง
ทำให้ลูกค้าของร้านเชื่อมั่นในสิ่งที่ทางร้านนำเสนอ และบอกความจริงกับลูกค้าว่าที่นี่ขายทองปลอม และถึงแม้ว่าทางร้านจะขายแต่ทองปลอมก็ตาม ทางในกระบวนการผลิตทางร้านก็มีความใส่ใจที่จะพัฒนาทองปลอมให้มีคุณภาพขึ้นไป เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำทองปลอมไปใส่ได้อย่างมีคุณภาพ เพียงแต่ไม่สามารถนำไปขายหรือจำนำได้
และจากราคาทองคำแท้ที่ทะยานขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ร้านทองเอกมีกลุ่มลูกค้าและยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก มีทั้งลูกค้าที่เดินทางด้วยตนเองทั้งจากต่างจังหวัดและในเมือง รวมทั้งยอดสั่งซื้อทางออนไลน์ที่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันทางร้านต้องขยายร้านเพิ่มขึ้นจากเดิม 1 คูหากลายเป็น 3 คูหาเพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่มากขึ้นในแต่ละวัน
นายอิงควัต กล่าวอีกว่า แม้ร้านของตนจะเป็นร้านที่ขายทองปลอมก็ตาม แต่ตนขายอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ ขายของปลอมก็บอกกับลูกค้าว่าร้านเราของปลอม ไม่ไปขายของปลอมในราคาเกือบเท่าของจริง ตนเน้นให้ความจริงใจกับลูกค้าเป็นหลัก แม้จะขายทองปลอมแต่ก็ขายโดยสุจริตตรงไปตรงมา จนมีรายได้เลี้ยงดูพนักงานในบริษัทนับร้อยคน
สำหรับประเด็นเรื่องปี่เซียะที่กำลังเป็นกระแสล่าสุด ทำให้ทางร้านได้รับอานิสงค์มีลูกค้ามาหาซื้อไปจนเกือบหมดแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ก็พอขายได้เรื่อยๆ แต่พอมีกระแสเรื่องปี่เซียะขึ้นมา ทำให้ลูกค้าสายมูหันมาซื้อปี่เซียะที่ร้านเพิ่มขึ้นจนสินค้าหมดจากร้าน ทั้งการเดินทางมาเลือกซื้อที่หน้าร้านและทางออนไลน์ ทำให้ทางร้านต้องเร่งผลิตปี่เซียะออกมาเอาใจสายมูให้ทันกระแส กับความต้องการในราคาชนิดต่างๆ
นายอิงควัฒน์ กล่าวเพิ่มว่า ปัจจุบันร้านทองเอกจิวเวลรี่ซึ่งเป็นร้านขายทองปลอมอันดับ 1 ในตอนนี้ จากการที่ลูกค้าหันมาให้ความสนใจและตอบรับมากขึ้นจนยอดขายของทางร้านเพิ่มสูงขึ้น ทางร้านจึงจัดกิจกรรมสมนาคุณคืนให้กำไรให้กับลูกค้า ด้วยการจับสลากแจกรางวัลเป็นเงินสด 1 ล้านบาทให้กับลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าในราคามูลค่ารวมตั้งแต่ 1,000 บาทเป็นต้นไป โดยจะทำการจับสลากแจกรางวัลในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ผ่านช่องทางการไลฟ์สดของร้าน
ด้าน ลูกค้าที่มาเลือกซื้อทองปลอม กล่าวว่า เป็นลูกค้าเก่าของร้านนี้มานานแล้ว ตั้งใจกลับมาซื้อเส้นใหม่เพราะอยากเปลี่ยนลาย เนื่องจากลายเดิมที่ซื้อไปใส่ได้ประมาณ 1 ปี แม้จะไม่ลอก แต่เริ่มเบื่อลายที่ใส่อยู่ จึงนำมาเทิรน์เปลี่ยนกับทางร้านได้อีกด้วย ส่วนตัวแล้วตนมั่นใจในคุณภาพสินค้าร้านนี้ว่าเป็นสินค้าตรงปก และนโยบายร้านที่ชัดเจนคือปลอม 100% แต่ดูเหมือนแท้ก็ตาม
ตนรู้สึกว่าการกลับมาซื้อซ้ำ ที่ร้านนี้สบายใจกว่าที่ไปซื้อทองจากร้านที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างที่เป็นกระแสอยู่ เสี่ยงน้อย ประหยัดกว่า จนตนเป็นลูกค้าร้านทองเอกมา 3 ปีแล้ว ตอนนี้ตนจะรอว่าทางร้านจะทำปี่เซียะทองคำปลอมออกมาเมื่อไร รวมทั้งทองคำแท่งปลอมอีก ซึ่งตนจะนำไปสะสมตามความชอบส่วนตัว แถมซื้อทองปลอมที่นี่ยังนำมาเทิร์นได้และยังได้ลุ้นโชคอีกต่อด้วย