เมื่อ 29 เม.ย. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าความสัมพันธ์แตกร้าวระหว่างประเทศฟิลิปปินส์กับคูเวต ว่าประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ระบุถึงคำสั่งห้ามแรงงานฟิลิปปินส์เดินทางไปทำงานที่คูเวตชั่วคราวนั้นเปลี่ยนแปลงเป็นคำสั่งห้ามแบบถาวรแล้วเพื่อตอบโต้ทางการคูเวต
ความเคลื่อนไหวของผู้นำฟิลิปปินส์เกิดขึ้นหลังทางการคูเวตมีคำสั่งขับไล่เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำกรุงคูเวตซิตี้ กรณีที่สั่งให้เจ้าหน้าที่สถานทูตเข้าช่วยเหลือพาแม่บ้านหลบหนีจากบ้านของนายจ้างที่แม่บ้านอ้างว่าโดนกระทำทารุณ และถูกตำรวจเพิกเฉยนานกว่า 24 ชั่วโมงหลังทราบเหตุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- เหตุบุกช่วยสาวใช้พ้นนายจ้างทารุณบานปลาย! คูเวตขับทูตใหญ่ฟิลิปปินส์พ้นประเทศ
- ศพสาวใช้ปินส์ถูกฆาตกรรมแช่แข็งในคูเวต ส่งถึงบ้าน–ญาติร่ำไห้ขอความยุติธรรม
- คูเวตตัดสินประหารทั้งสองผัวเมีย! คดีฆ่าสาวใช้ปินส์ แช่แข็งศพนานนับปี
เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากคดีน.ส.โจนนา เดมาเฟลิส เหยื่อสาวใช้ฟิลิปปินส์ ถูกสังหารในประเทศคูเวต ร่างถูกแช่แข็งในตู้เย็นบ้านนายจ้างชาวเลบานอนนานนับปี ตอกย้ำปัญหาความรุนแรงต่อแรงงานฟิลิปปินส์ในคูเวต
“คำสั่งห้ามจะคงอยู่ต่อไปแบบถาวร จะไม่มีการเปิดให้พลเมืองของเราเดินทางไปใช้แรงงานที่คูเวตอีกต่อไป โดยเฉพาะแรงงานประเภทแม่บ้าน พอกันที”ประธานาธิบดีดูแตร์เตกล่าวและเรียกร้องให้ชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานในคูเวตเดินทางกลับบ้านเพื่อมาทำงานรับใช้ชาติบ้านเกิดเมืองนอน
“ผมขอกล่าวไปยังพี่น้องชาวฟิลิปปินส์ผู้รักชาติทั้งหลาย กลับบ้านท่านเถิด ไม่ว่าเราจะมีฐานะยากจนเพียงใด พวกเราก็จะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เศรษฐกิจของชาติเราอยู่เกณฑ์ดี และเรากำลังขาดแคลนคนงาน”
นายดูแตร์เต แนะนำด้วยว่าสำหรับชาวฟิลิปปินส์ที่มีทักษะภาษาอังกฤษดี สามารถไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในจีนได้ เพราะตอนนี้ จีนเป็นชาติมหามิตรของฟิลิปปินส์
ด้านกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ชาวฟิลิปปินส์ที่ไปทำงานในคูเวตราว 260,000 คนนั้นถือเป็นสัดส่วนแรงงานถึงร้อยละ 60 ในคูเวต