แฉอีกเจ้าชายซาอุฯ ชี้ “นักข่าวดัง” เป็นสมาชิกมุสลิมบราเธอร์ฮูด เข้าข่าย “ตัวอันตราย”
แฉอีกเจ้าชายซาอุฯ – วันที่ 2 พ.ย. บีบีซี รายงานความคืบหน้าคดีฆาตกรรมปริศนา นายจามาล คาช็อกกี นักข่าวฝีปากกล้าชาวซาอุดีอาระเบีย และคอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ ในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ เคยตรัสทางโทรศัพท์กับ นายจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ว่านายคาช็อกกีเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนิยมมุสลิมสุดโต่ง และเข้าข่ายเป็นคนอันตราย
วอชิงตันโพสต์และนิวยอร์กไทมส์ระบุว่า เจ้าชายซัลมานโทรศัพท์หารือกับนายคุชเนอร์ พร้อมด้วยนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาวแห่งสหรัฐ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่นายคาช็อกกีหายตัวไปแล้ว แต่เกิดขึ้นก่อนที่ทางการซาอุฯ จะแถลงยอมรับว่านักข่าวคนดังถูกสังหารในสถานกงสุลซาอุฯ
โดยพระองค์ตรัสว่านายคาช็อกกีเป็นสมาชิกของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม หรือมุสลิมบราเธอร์ฮูด ถือเป็นบุคคลอันตรายต่อความมั่นคง และเรียกร้องให้สหรัฐรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐและซาอุฯ อย่างไรก็ตาม ทางการซาอุฯ ปฏิเสธข้อครหาดังกล่าว และว่าจะเร่งตรวจสอบเพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับกรณีนี้
ด้านครอบครัวของนายคาช็อกกีให้สัมภาษณ์วอชิงตันโพสต์เพื่อตอบโต้การกล่าวหา โดยยืนกรานว่านายคาช็อกไม่ได้เป็นสมาชิกมุสลิมบราเธอร์ฮูด และว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้นายคาช็อกกีแสดงตัวปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับมุสลิมบราเธอร์ฮูดอย่างชัดเจน “จามาล คาช็อกกี ไม่ใช่บุคคลอันตรายในทุกทางที่เป็นไปได้ การกล่าวหาเช่นนี้ช่างไร้สาระสิ้นดี”
การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังอัยการสูงสุดตุรกีระบุผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการว่า นานคาช็อกกีถูกรัดคอทันทีที่เข้าไปในสถานกงสุลซาอุฯ จากนั้นทีมสังหาร 15 คนจึงถูกส่งตัวมากำจัดศพของนายคาช็อกกีด้วยการหั่นอวัยวะแยกส่วนและนำไปทิ้ง
อ่านต่อ:
ยันนักข่าวซาอุฯถูกรัดคอตาย ทันทีที่เดินเข้าแดนสังหาร ก่อนหั่นศพแยกชิ้น