หนุ่มเกาะเครื่องบิน จากแอฟริกา เปิดใจลี้ภัยในอังกฤษ – เพื่อนร่วงจากฟ้า

หนุ่มเกาะเครื่องบินเดลีเมล์ รายงานว่าเรื่องราวการเดินทางสุดดราม่าของหนุ่มแอฟริกาใต้ที่ลักลอบขึ้นเครื่องบินจากนครโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ มาถึงสนามบินฮีตโธรว์ กรุงลอนดอน ระยะทาง 9,022 กิโลเมตรพร้อมเพื่อนรัก แต่เพื่อนร่วงลงไปตายก่อนถึงจุดหมาย เมื่อปี 2558 นั้น ดำเนินมาถึงจุดที่ชายหนุ่มได้สิทธิลี้ภัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษแล้ว

นายเธมบา คาเบกา อายุ 30 ปี คือชายผู้รอดชีวิตคนดังกล่าว เจ้าตัวเปิดเผยชื่อและเรื่องราวครั้งแรกกับสถานี แชนเนล โฟร์ ของอังกฤษ ผ่านสารคดีชื่อ ชายผู้ตกลงมาจากฟ้า – The Man Who Fell From The Sky

หนุ่มเกาะเครื่องบิน

สารคดี ชายผู้ตกลงมาจากฟ้า

คาเบกาถูกพบร่างในสภาพไม่ได้สติที่สนามบินฮีตโธรว์ แทบไม่มีออกซิเจนในร่างกาย ระหว่างสลบอยู่กลางอุณหภูมิ -60 องศาเซลเซียส ตรงช่วงล่างของเครื่องโบอิ้ง 747-400 สายการบินบริติช แอร์เวยส์ เที่ยวบิน 54 บินออกจากนครโจฮันเนสเบิร์ก เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2558

ชายหนุ่มเล่าเรื่องราวหลังจากตนเองฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่าที่กินเวลานาน 6 เดือน และรู้ว่า เพื่อนรัก ชื่อ คาร์ลิโต เวล ที่เดินทางมาด้วยกันและแอบอยู่ฐานล้อยางของลำเครื่องบิน ร่วงจากฟ้าที่ระยะความสูง 1,500 เมตรลงไปเสียชีวิต

เพื่อนรักของคาเบกา ถูกพบร่างบนที่ตั้งเครื่องทำความเย็นของสำนักงานแห่งหนึ่งในเมืองริชมอนด์ ห่างจากสนามบินฮีตโธรว์ 9.6 ก.ม. หรือไม่กี่นาทีที่เครื่องจะไปถึงสนามบิน (คลิปด้านล่าง)

ทั้งคาร์ลิโต เวลและคาเบกาต่างพยายามหนีความยากจนที่แคมป์ก่อสร้างในแอฟริกาใต้ ด้วยการคลานเข้าไปซ่อนอยู่ในแลนดิ้งเกียร์ หรือฐานที่ใช้รับน้ำหนักเมื่อเครื่องลงสู่พื้น

“ตอนที่เครื่องบินเหินขึ้น ผมมองเห็นพื้นข้างล่าง เห็นรถยนต์ เห็นผู้คนตัวเล็กๆ อยู่ไกล จากนั้นอีกไม่นานผมก็ไม่รู้ตัวอีกเลย เพราะขาดออกซิเจน สิ่งสุดท้ายที่จำได้ตอนเครื่องออกก็คือ คาร์ลิโตบอกผมว่า นี่..เราต้องทำได้” คาเบกากล่าว

หลังจากสลบไป 6 เดือน เมื่อฟื้นจากอาการโคมาแล้ว ตำรวจนำพาสปอร์ตของคาร์ลิโตมาถามว่า “คุณรู้จักคนๆ นี้ไหม” คาเบกาตอบว่า “แน่สิ ผมรู้จักเขา เขาเป็นเพื่อนผม คาร์ลิโต” ตำรวจจึงบอกว่า “เขาไม่รอดนะ เขาตกลงบนหลังคาตึก”

FILE PHOTO: A British Airways aircraft takes off over terminal 4 at Heathrow Airport near London, Britain October 11, 2016. REUTERS/Stefan Wermuth/File Photo

ความพยายามลักลอบเกาะเครื่องบินเพื่อลักลอบไปประเทศอื่น เกิดขึ้นอย่างน้อย 109 ครั้งทั่วโลก กรุงลอนดอนเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่สุด ในจำนวนนี้ 24 คนเท่านั้นที่รอดชีวิตอยู่ตรงแลนดิ้งเกียร์

ผู้รอดชีวิตคนแรกที่ปรากฏเป็นข่าวคือ เด็กชาย บาส วี อายุ 12 ปี ลอบเดินทางจากอินโดนีเซียไปยังออสเตรเลีย เมื่อปี 2489

สำหรับคาเบกา แทบไม่มีใครรู้เรื่องราว กระทั่ง ริช เบนต์ลีย์ โปรดิวเซอร์รายการของแชนเนลโฟร์ แกะรอยไปจนพบ ชายหนุ่มอาศัยอยู่ที่แฟลตในเมืองลิเวอร์พูล เพื่อทำสารคดี The Man Who Fell From The Sky และออกฉายค่ำวันที่ 4 ม.ค. 2564 ปัจจุบันคาเบกามีชื่ออังกฤษ ว่า จัสติน

หนุ่มเกาะเครื่องบิน

ริช เบนต์ลีย์ ตามไปพบ เธมบา คาเบกาที่เมืองลิเวอร์พูล

สารคดีนี้ คาเบกา หรือจัสติน เปิดเผยเรื่องราวที่พบคาร์ลิโตในไนต์คลับที่โจฮันเนสเบิร์ก คาร์ลิโตเป็นเด็กเร่ร่อนที่เติบโตมาจากสถานเด็กกำพร้า เนื่องจากสงครามกลางเมืองที่ประเทศโมซัมบิก แม้คาร์ลิโตมีภรรยาและลูกสาว (ปัจจุบันอายุ 11 ปี) แต่เลิกกัน ชายหนุ่มจึงฝันถึงการมีชีวิตที่ดีขึ้นในต่างแดน

ส่วนคาเบกา ไม่เคยรู้จักพ่อตนเอง และถูกแม่ทิ้งไปตั้งแต่ตนเองอายุเพียง 3 เดือน มีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งคอยดูแล เด็กน้อยเติบโตมาที่ไซต์งานก่อสร้างใกล้สนามบินโจฮันเนสเบิร์ก พอชีวิตเริ่มจะดีขึ้น เกือบจะได้ไปเรียนหนังสือแล้ว ญาติผู้หญิงคนนี้ก็ตายจากไป

นครโจฮันเนสเบิร์กวันนี้ เมื่อวันขึ้นปีใหม่ ยังคงอยู่ในช่วงเคอร์ฟิว / Police officers detain a man during New Year’s Eve patrols as a nighttime curfew is reimposed amid a nationwide coronavirus disease (COVID-19) lockdown, in Johannesburg, South Africa December 31, 2020. REUTERS/Siphiwe Sibeko

ชีวิตของคาเบกาต้องพบเจอกับความรุนแรงและการรุกรานของสมาชิกแก๊งอาชญากร ทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ เมื่อมาพบคาร์ลิโต ทั้งสองจึงวางแผนกันจะลอบเดินทางเข้าอังกฤษด้วยการลอบเกาะเครื่องบินไป

“ผมรู้ว่ามันอันตราย แต่ผมก็อยากลองใช้โอกาสที่มี ไม่ได้สนว่าจะอยู่หรือตาย ขอแค่ได้ออกจากแอฟริกาเพื่อมีชีวิตให้ได้” คาเบกา กล่าว

ทุกวันนี้ คาเบกาอาศัยอยู่ที่แฟลต ห้องนอนเตียงเดี่ยวในเมืองลิเวอร์พูล ยังไม่ได้ทำงานเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ตอนนี้จึงรอให้ได้พาสปอร์ต ซึ่งต้องใช้เวลา 5 ปี พร้อมกล่าวติดตลกว่า “ถึงตอนนี้ผมจะได้ขึ้นเครื่องบินจริงๆ และผมก็คงจะได้เป็นคนเมืองลิเวอร์พูลแล้ว”

A plane of British Airway arrives from London amid new restrictions to prevent the spread of coronavirus disease (COVID-19) at JFK International Airport in New York City, U.S., December 21, 2020. REUTERS/Eduardo Munoz

เมื่อถามถึงคาร์ลิโต เพื่อนรักที่จากไป คาเบกากล่าวว่า ยังรู้สึกผิดอยู่เลยที่ตนเองรอด แต่เพื่อนตาย ทั้งไม่ได้ไปงานศพ เพราะตอนนั้นยังไม่ฟื้นจากโคม่า

“ผมเศร้ามากเพราะเขาถูกฝังไปแล้ว โดยที่ผมยังไม่ทันเอ่ยคำลา ผมวางดอกไม้ไว้ที่หลุมศพเขา ผมคิดถึงเขา ที่ผมเรียกเสมอว่า น้องที่มาจากคนละแม่ เขาเป็นเพื่อนคนเดียวที่รู้จักผมมากกว่าใครๆ ในที่ๆ ผมเดินทางมา”

เครื่องบริติชแอร์เวยส์ที่สนามบินโจฮันเนสเบิร์ก / A British Airways plane takes off at the O.R. Tambo International Airport in Johannesburg, South Africa, December 22, 2020. REUTERS/Siphiwe Sibeko

ด้านโปรดิวเซอร์ เบนต์ลีย์ กล่าวว่า อยากให้สารคดีนี้เป็นตัวอย่างให้คนอื่นๆ และสะท้อนเสียงของคนที่สิ้นหวังและรู้สึกว่าแทบไม่มีโอกาสในชีวิต

เหมือนกับที่คาเบกากล่าวว่า “ผมต้องออกจากแอฟริกาเพื่อมีชีวิตรอด แต่ผมขอแนะนำคนอื่นๆ ไว้เลยว่า มันไม่ปลอดภัยเลย มันเป็นสถานการณ์ที่เป็นตายเท่ากัน”

/////

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ดิ่งจากเครื่องบิน! สองหนุ่มแอบปีนเกาะล้อหวังโดยสารฟรี สุดท้ายตกมาตาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน