ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งครั้งแรกหลังโควิด-19 ทะลุ70เหรียญต่อบาร์เรลล์

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งครั้งแรกหลังโควิด-19 – วันที่ 8 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มสูงขึ้นทะลุ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกหลังเกิดการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 แต่หลายฝ่ายยังไม่เชื่อว่าเป็นสัญญาณสะท้อนการฟื้นตัวของความต้องการตลาดน้ำมันดิบ

รายงานระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เดือนพ.ค.นี้ พุ่งขึ้นไปถึง 71.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในตลาดเอเชีย ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ 8 ม.ค. 2563 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ (WTI) สำหรับเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ไปอยู่ที่ 67.56 ดอลลาร์สหรัฐ และ 67.98 ดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดตั้งแต่เดือนต.ค. 2561

ราคาน้ำมันดิบเบนช์มาร์กดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในเอเชีย หลังวุฒิสภาสหรัฐอเมริกามีมติผ่านงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 แสนล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 58 ล้านล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างร้อนแรง สอดรับกับสัญญเชิงบวกของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกกลับมามีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

นอกจากนี้ ยังเกิดขึ้นหลังกลุ่มติดอาวุธฮูตีในเยเมนปล่อยขีปนาวุธถล่มโรงงานกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเมื่อ 7 มี.ค. แต่สามารถถูกสกัดไว้ได้ โดยทางการซาอุฯ ระบุว่า เป็นความล้มเหลวต่อการคุกคามความมั่นคงทางพลังงานของประชาคมโลก

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของซาอุฯ กล่าวว่ายังไม่วางใจว่าเป็นสัญญาณของความต้องการน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเป็กต้องการลดทอนน้ำมันดิบที่มีเก็บสะสมไว้ให้น้อยลงไปอีก สะท้อนจากการคงกำลังการผลิต และมองว่าภัยคุกคามต่อกลุ่มโอเป็กนั้นน่าจะเป็นการผลิตจากผู้เล่นอื่นมากกว่า (สหรัฐฯ และรัสเซีย)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน