สำนักงานยายุโรป – วันที่ 16 มี.ค. บีบีซี รายงานว่า สำนักงานยายุโรป (EMA) ระบุยังเชื่อมั่นว่า การฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ผลิตโดย ออกซฟอร์ด-แอสตราเซเนกา จากอังกฤษ มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง และย้ำ “ไม่มีข้อบ่งชี้” ว่าวัคซีนดังกล่าวทำให้ลิ่มเลือดอุดตัน หลังจากที่หลายประเทศชั้นนำใน สหภาพยุโรป หรืออียู ระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าวชั่วคราว

ดัตช์ระงับ “แอสตราเซเนกา”

The Netherlands has become the latest country to suspend use of the Oxford-AstraZeneca coronavirus vaccine over concerns about possible side effects. The Dutch government said the move, which will last until at least 29 March, was a precaution. The Republic of Ireland earlier made a similar decision over reports of blood clotting events in adults in Norway. REUTERS

น.ส.เอเมอร์ คุก หัวหน้าสำนักงานยายุโรป กล่าวว่า EMA ยืนหยัดการตัดสินใจอนุมัติวัคซีนแอสตราเซเนกา ก่อนหน้านี้ EMA กล่าวว่า จำนวนผู้ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาและเป็นลิ่มเลือด ไม่สูงกว่าที่พบในประชากรทั่วไป

“เราทราบดีว่าหลายพันคนมีอาการลิ่มเลือดอุดตันในสหภาพยุโรป ดังนั้น สิ่งที่เราต้องการคือการพิจารณาว่า เหตุการณ์เหล่านี้เกิดจากวัคซีนหรือสาเหตุอื่นๆ หรือไม่” และว่า “ระหว่างการตรวจสอบขณะนี้ เรายังเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า ประโยชน์ของวัคซีนแอสตราเซเนกา ในการป้องกันโควิด -19 (ซึ่งเป็นโรคที่มีความเสี่ยงต่อการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต) มีมากกว่าความเสี่ยง” น.ส.คุกกล่าว

ผลการตรวจสอบกรณีที่ผู้ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาและลิ่มเลือดอุดตันโดย EMA จะออกมาในวันพฤหับสดีที่ 18 มี.ค.

โปรตุเกส-สเปนระงับวัคซีน

Portugal and Spain have joined 15 European countries in suspending the use of the AstraZeneca Covid jab over unproven fears it causes blood clots. The moves comes despite scientists and the European Medicines Agency dismissing fears over clots, with warnings that the pausing of inoculations was ‘reckless’ and would have ‘consequences’. DailyMail

ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้บรรดาประเทศต่างๆ อย่าระงับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา และผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยวัคซีนของ WHO กำลังประชุมกันเมื่อวันอังคาร เพื่อทบทวนรายงานความผิดปกติการแข็งตัวของเลือดที่หายากยิ่งในผู้ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา

ก่อนหน้านี้ โฆษก WHO ระบุ ไม่มีหลักฐานว่า ลิ่มเลือดอุดตันดังกล่าวเชื่อมโยงกับวัคซีนแอสตราเซเนกา

โปรตุเกส-สเปนระงับวัคซีน

Vials labelled with broken sticker “AstraZeneca COVID-19 Coronavirus Vaccine” and a broken syringe. REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

ทั้งนี้ หลายประเทศระงับวัคซีนแอสตราเซเนกา เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เนเธอร์แลนด์ และ โปรตุเกส เป็นต้น ขณะที่ ออสเตรีย ระงับการใช้วัคซีนบางชุด ส่วน เบลเยียม โปแลนด์ เช็ก และ ยูเครน จะเดินหน้าฉีดวัคซีนต่อไป ด้าน อังกฤษ โดยหน่วยงานกำกับยาระบุว่า หลักฐานไม่ได้บ่งชี้ว่าการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาจะเกิดลิ่มเลือด และขอให้คนอังกฤษรับวัคซีนตามคำร้องขอ

ขณะที่แอสตราเซเนการะบุไม่มีหลักฐานความเสี่ยงการแข็งตัวของเลือดเพิ่มขึ้นเนื่องจากวัคซีนแอสตราเซเนกา โดยมีรายงานว่า ทั่วสหภาพยุโรปและอังกฤษมีผู้ได้รับวัคซีนเป็น ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (deep-vein thrombosis: DVT) 15 กรณี และ เส้นเลือดอุดตันในปอด (pulmonary embolism) 22 กรณี

“ตัวเลขเหล่านี้ต่ำกว่าที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในประชากรทั่วไปของจำนวนเท่านี้ และใกล้เคียงกับวัคซีนค้านโควิด-19 ตัวอื่นที่ได้รับการอนุมัติ” แอสตราเซเนการะบุ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

โปรตุเกส-สเปนระงับวัคซีน “แอสตราเซเนกา” อิตาลีเร่งสอบครูดับ 1 วันหลังฉีด

ดัตช์ระงับ “แอสตราเซเนกา” อีกประเทศ ชะลอ 3 แสนโดสจ่อฉีดใน 2 สัปดาห์!

สหภาพยุโรประบุ ไม่มีข้อบ่งชี้ว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา เชื่อมโยงกับ ภาวะลิ่มเลือด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน