แอสตราเซเนกา – วันที่ 25 มี.ค. บีบีซี รายงานว่า แอสตราเซเนกา บริษัทยาและชีวเภสัชภัณฑ์ของอังกฤษ-สวีเดน ประกาศปรับปรุงผลลัพธ์ประสิทธิภาพของการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา จาก 79% ลงมาที่ 76% หลังจากที่บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐแสดงความกังวลว่า การทดลองดังกล่าวกำลังใช้ข้อมูลล้าสมัย
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์การทดลองยังยืนยันว่า ในผู้ใหญ่วัย 65 ปีขึ้นไป วัคซีนแอสตราเซเนกามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นจาก 80% เป็น 85% และยังป้องกันโรครุนแรงด้วยประสิทธิภาพ 100%
ตอนนี้แอสตราเซเนกาอยู่ระหว่างรอการได้รับอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ตามข้อบังคับของสหรัฐ
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งจะได้ยื่นตามข้อบังคับอนุญาตใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐ และเตรียมฉีดวัคซีนหลายล้านเข็มทั่วอเมริกา” เมเน แพนกาโลส รองประธานบริหารแอสตราเซเนกา กล่าว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่แอสตราเซเนกาประกาศผลลัพธ์การทดลองในสหรัฐ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ระบุพบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพ 79% ในการยับยั้งโควิด-19 และมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันไม่ให้คนล้มป่วยหนัก
แต่วันถัดมา สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐระบุได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ข้อมูลและความปลอดภัยที่ติดตามการทดลอง อาจมีการใช้ข้อมูลที่ให้มุมมองไม่ครบถ้วนของผลลัพธ์ประสิทธิภาพวัคซีนแอสตราเซเนกา
ทั้งนี้ การทดลองวัคซีนแอสตราเซเนกาในสหรัฐใช้อาสาสมัครมากกว่า 32,000 คน ส่วนใหญ่มาจากอเมริกา แต่ยังมาจากชิลีและเปรูด้วย
สหรัฐสั่งวัคซีนออกซฟอร์ด-แอสตราเซเนกา 300 ล้านเข็ม เมื่ออเมริกาแข่งกับโลกเพื่อเป็นผู้เบิกทางสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชนจากโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าและปัญหาต่างๆ ของวัคซีนแอสตราเซเนกาทำให้สหรัฐสหรัฐฉีดวัคซีนเจ้าอื่นแก่ประชาชนในประเทศไปแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สำนักงานยายุโรป ยังเชื่อมั่น วัคซีน “แอสตราเซเนกา” มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง