สหรัฐเผ่น – เมื่อ 13 ส.ค. เอพี รายงานสถานการณ์เขย่าขวัญในอัฟกานิสถาน ว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ส่งกองกำลังทหารชุดใหม่ 3,000 นายเข้าไปอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตส่วนหนึ่งออกมาจากกรุงคาบูล เช่นเดียวกับที่หลายประเทศที่เริ่มอพยพคนออกมาอย่างระทึกขวัญ จังหวะที่ตาลิบันบุกยึดเมืองเอกของจังหวัดต่างๆ ไม่หยุดหย่อน และยึดได้ 18 จากทั้งหมด 34 จังหวัด ในที่นี้รวมถึง เมืองยุทธศาสตร์สำคัญอย่าง กันดาฮาร์ เฮรัต กัซนี และคุนดุซ
แม้รัฐบาลสหรัฐแถลงว่า สถานทูตอเมริกันในกรุงคาบูลจะยังทำภารกิจต่อไป พร้อมปฏิเสธการอพยพ ถอนกำลังทั้งหมด โดยชี้แจงว่าเป็นการลดขนาดเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนเท่านั้น
แต่การส่งทหารเข้าไปอพยพเจ้าหน้าที่ออกมาจากกรุงคาบูล ถูกมองว่าตอกย้ำสถานการณ์ที่น่าหวั่นไหว โดยเฉพาะเมื่อเมืองเฮรัต และกัซนี ทางฝั่งตะวันตก ถูกตาลิบันยึดได้ ทั้งยังยึดต่อมาถึงเมืองที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงแค่ 80 ก.ม. หมายความว่า กรุงคาบูลตกอยู่ในสถานะเป็นเป้าหมายของตาลิบันในที่สุด
ส่วนเมืองกันดาฮาร์ ถือเป็นเมืองเอกขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศ ทางภาคใต้ การที่ตาลิบันยึดได้ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ เพราะเคยเป็นฐานที่มั่นและเป็นถิ่นกำเนิดของกองกำลังมาก่อน อีกทั้งยังเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในฐานะศูนย์กลางการค้า และเคยเป็นศูนย์กลางปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐอเมริกามาก่อน
ด้านนายแอนโธนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ เพียงแค่เตือนกลุ่มตาลิบันไม่ให้ทำร้ายชาวอเมริกัน ระหว่างที่สหรัฐกำลังถอนทหารโดยมีกำหนดเสร็จสิ้นวันที่ 31 ส.ค.นี้ ไม่เช่นนั้นตาลิบันจะต้องถูกสหรัฐตอบโต้
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมแจ้งส่งทหาร 3,000 นายเข้าไปยังกรุงคาบูล เพิ่มจากที่มีทหารอยู่ในอัฟกานิสถานแล้ว 650 นาย เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยด้านการทูต รวมถึงที่สนามบินกรุงคาบูล ส่วนเจ้าหน้าที่ทีมงานสถานทูตสหรัฐมีอยู่ราว 4,200 คน แต่ส่วนใหญ่เป็นชาวอัฟกัน
ขณะที่รัฐบาลอังกฤษ แจ้งส่งทหารเข้าไป 600 นายเพื่อช่วยพลเมืองอังกฤษเดินทางออกจากอัฟกานิสถานเช่นเดียวกับแคนาดา ที่มีกองกำลังพิเศษสำหรับการอพยพพลเมืองออกจากกรุงคาบูล
ด้าน นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกประจำตัว นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงเตือนว่า หากเกิดการสู้รบในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน เมื่อใด จะเกิดหายนะทางมนุษยธรรมอย่างใหญ่หลวง
“เราหวังอย่างยิ่งว่า การเจรจาระหว่างตัวแทนสาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถาน กับ ตาลิบัน ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ จะฟื้นฟูหนทางของการจัดตั้งเวทีเจรจาต่อรองเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งได้
เป็นที่แน่ชัดว่า หากเกิดการสู้รบในตัวเมืองขนาดเท่ากรุงคาบูล จะเกิดผลกระทบหายนะต่อพลเมือง และเราหวังอย่างยิ่งว่า มันจะไม่เกิดแบบนั้น” นายดูจาร์ริก กล่าว
++++++++++++
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
อัฟกานิสถาน : ชาวบ้านหนีเข้ากรุงคาบูล หลังตาลีบันบุกยึดเมืองเอก
กรุงคาบูลเสี่ยงถูกตีแตก ตาลิบันบุกประชิด ยึดเมืองสำคัญแห่งที่10