ตาลิบันรุกคืบ “หุบเขาปัญจ์ชีร์” ฮึ่มใช้แก๊สน้ำตา-ด้ามปืนตีหัวผู้ชุมนุมหญิง “เลือดอาบ”
ตาลิบันรุกคืบ “หุบเขาปัญจ์ชีร์” – วันที่ 5 ก.ย. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอัฟกานิสถานว่า กองกำลังตาลิบันรุกคืบเข้าถึงหมู่บ้านอะนาบาห์ในหุบเขาปัญจ์ชีร์ ฐานที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายต่อต้านตาลิบันในอัฟกานิสถาน ส่งผลให้ชาวบ้านจำนวนมากพากันอพยพหนีตาย
อย่างไรก็ตาม แนวร่วมต่อต้านแห่งชาติอัฟกานิสถาน (เอ็นอาร์เอฟ) ในหุบเขาปัญจ์ชีร์ ยังตรึงกำลังต่อสู้และเชื่อมั่นว่าจะสามารถต้านทานความพยายามในการโจมตีของกองกำลังตาลิบันได้
หน่วยงานช่วยเหลือฉุกเฉินของอิตาลีซึ่งตั้งศูนย์การแพทย์ในพื้นที่หุบเขาปัญจ์ชีร์ ระบุในแถลงการณ์ว่าตาลิบันยกกำลังมาถึงหมู่บ้านอะนาบาห์แล้ว
“ผู้คนจำนวนมากพากันหนีตายในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เบื้องต้นยังไม่มีการแทรกแซงกิจการของหน่วยช่วยเหลือฉุกเฉิน” และว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวนน้อยเข้ามารับการรักษาที่ศูนย์การแพทย์อะนาบาห์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันรายงานท้องถิ่นที่ว่ากองกำลังตาลิบันบุกยึดพื้นที่หมู่บ้านอะนาบาห์แล้ว
นายอาลี ไมซัม นาซารี โฆษกของแนวร่วมต่อต้านเอ็นอาร์เอฟ แถลงย้ำว่าความพยายามปกป้องหุบเขาปัญจ์ชีร์จะไม่มีทางล้มเหลว
นายอัมรุลเลาะห์ ซาเลห์ อดีตรองประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน ซึ่งย้ายมาปักหลักที่หุบเขาปัญจ์ชีร์ บ้านเกิด ภายหลังกองกำลังตาลิบันบุกยึดกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมด้วยนายอาหมัด มาซูด ลูกชายของอาหมัด ชาห์ มาซูด วีรบุรุษผู้บัญชาการกองทัพต่อต้านตาลิบัน แถลงเตือนสถานการณ์อันตราย วิกฤตละเมิดสิทธิมนุษยธรรมครั้งใหญ่ และการลี้ภัยหนีการบุกรุกของตาลิบัน
ด้าน พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐอเมริกา เปิดเผยกับฟ็อกซ์นิวส์ว่ามีความเป็นไปได้ที่อัฟกานิสถานจะเกิดสงครามกลางเมือง พร้อมตั้งคำถามว่าตาลิบันซึ่งยังไม่ได้ประกาศจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ จะสามารถรวมอำนาจและมีศักยภาพในการปกครองประเทศหรือไม่
ขณะเดียวกัน บีบีซี รายงานว่า กองกำลังตาลิบันเปิดฉากใช้กำลังปราบปรามกลุ่มนักเคลื่อนไหวสิทธิสตรีในกรุงคาบูลเมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากผู้หญิงอัฟกานิสถานจำนวนมากรวมตัวเดินขบวนเรียกร้องสิทธิทางการศึกษา การทำงาน และการมีบทบาทร่วมในรัฐบาล
ตาลิบันแถลงก่อนหน้านี้ว่าจะเคารพสิทธิมนุษยชน อนุญาตให้ผู้หญิงเรียนและทำงานได้ รวมทั้งสามารถร่วมรัฐบาล แต่จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งในระดับรัฐมนตรี ผู้จัดการเคลื่อนไหวปกป้องสิทธิสตรีเปิดเผยว่านักรบตาลิบันใช้แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยโจมตีผู้ประท้วงระหว่างเดินข้ามสะพานมุ่งหน้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน
น.ส.อซีตา นาซีมี นักข่าว ระบุกับโทโลนิวส์ว่า 25 ปีก่อนตาลิบันบุกยึดประเทศและกีดกั้นตน รวมถึงเด็กผู้หญิงและผู้หญิงจากการเรียนหนังสือ หลังจาก 5 ปีที่ตาลิบันปกครองอัฟกานิสถาน ตนเรียนและทำงานอย่างหนักด้วยหวังว่าอนาคตของคนในประเทศจะดีขึ้นซึ่งพวกตนจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง
น.ส.โสรายา ผู้ประท้วงอีกคนกล่าวกับรอยเตอร์ว่านักรบตาลิบันใช้ด้ามปืนและซองกระสุนปืนฟาดที่ศีรษะของนักเคลื่อนไหว ทำให้หลายคนมีแผลฉกรรจ์และเลือดไหลเปรอะเปื้อนทั่วใบหน้า
น.ส.นาร์กิซ วัย 24 ปี ระบุว่าตาลิบันพยายามสลายการชุมนุมของผู้หญิงหลายร้อยคนด้วยแก๊สน้ำตา ด้ามปืม และท่อนเหล็ก ตนถูกตีที่ศีรษะจนหมดสติและต่อมาต้องเข้ารับการรักษาเย็บถึง 5 เข็ม “เมื่อฉันปฏิเสธการปราบปรามและเดินหน้าประท้วงต่อ หนึ่งในนักรบตาลิบันก็ชกฉันและใช้อุปกรณ์โลหะแหลมคมตีมาที่ฉัน” น.ส.นาร์กิซกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: