เดอะซัน รายงานเรื่องราวชีวิตที่ไม่คาดคิดของ แซนดี แซนดริก พยาบาลหญิงชาวอเมริกัน อายุ 51 ปี ชาวเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา พบว่าเพื่อนร่วมงานของตนเอง เป็นพี่ชายแท้ๆ หลังผลตรวจดีเอ็นเอยืนยัน

“ตอนที่มองไปรอบโต๊ะ ฉันยิ้มให้เพื่อนร่วมงานชื่อ อัลเลน เป็นคนที่ฉันเชิญมากินอาหารค่ำ เรื่องที่เรื่องเหลือเชื่อมากก็คือ ฉันได้รู้ว่าเขาเป็นพี่ชายของฉันค่ะ” แซนดริก กล่าว

แซนดี แซนดริก ตอนเด็กและปัจจุบัน / Credit: Sandi Sandrik

แซนดริกเล่าว่า ไม่รู้มาก่อนว่าตนเองเป็นเด็กที่พ่อแม่รับมาเลี้ยง จนกระทั่งอายุ 11 ปี เมื่อเพื่อนทักว่าหน้าไม่เหมือน จากนั้นเมื่อไปถามพ่อแม่ ท่านจึงบอกว่า แม่แท้ๆ ชื่อ แอนนา เป็นญาติห่างๆ ของพ่อที่เลี้ยงดูมา

“ฉันรักพ่อแม่มาก จนไม่กล้าถามคำถามที่อาจทำร้ายจิตใจท่าน แต่ฉันก็หยุดคิดไม่ได้ ตอนที่เป็นวัยรุ่น ฉันก็เริ่มกลัวมากขึ้นว่าจะไม่เป็นที่ยอมรับ”

ในปี 2528 (ค.ศ.1985) แซนดริก อายุ 15 ปี ได้พบกับชายหนุ่มคือ เคน จากนั้นอีกสองปีจึงได้แต่งงานกัน และมีลูกชายคนแรกชื่อ ไรอัน ปัจจุบัน อายุ 33 ปี

ชีวิตสมรสเป็นไปด้วยดี ทั้งสองมีลูกสาวคนที่สอง ชื่อ ฮาลี อายุ 30 ปี และลูกชายคนเล็ก ชื่อ เอริก อายุ 29 ปี ขณะที่แซนดริกเริ่มไปฝึกเป็นพยาบาล

หญิงสาวเล่าว่า แม่จากไปเมื่อเดือนกันยายน 2556 และพ่อตามไปในเดือนสิงหาคม 2559 ตอนนั้นตนเองเศร้ามาก จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์จากแม่แท้ๆ ชื่อ แอนนา

แม่แอนนาบอกว่า เคยสัญญากับพ่อแม่บุญธรรมแล้วว่าจะไม่ติดต่อกับลูกแท้ๆ ตอนที่ทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าแม่แอนนาอยากรู้จักลูกของตนเองมาตลอด

แม่แอนนาเล่าวว่า ตอนที่ท้องแซนดริก เธอมีอายุ 20 ปี คบหากับชายหนุ่มชื่อ แกรี แม้ว่าต่อมาทั้งสองเลิกกัน แต่ก็ยังรักฝ่ายชายอยู่

“ท่านอธิบายว่า เขาเป็นคนใจดี ช่างคิด และที่เหมือนกับฉันคือ ใจเย็นภายใต้ภาวะกดดัน ทำให้ฉันชอบเขาขึ้นมาทันที” แซนดริกกล่าว

สองพี่น้อง อัลเลน และ แซนดี แซนดริก ได้พบ แกรี คุณพ่อของทั้งสอง

พยาบาลหญิงเล่าต่อว่า ตอนแรกที่รู้ว่าพ่อไม่ได้สนใจอยากรู้จักตน ตนก็เข้าไปดูข้อมูลพ่อในเฟซบุ๊กอยู่บ้าง หวังว่าวันหนึ่งจะตอบข้อความมาบ้าง แต่ก็ไม่เคยเลย

กระทั่งในเดือนธันวาคม 2563 ตอนที่แซนดริกเข้าไปดูเพจเฟซบุ๊กของพ่อ ก็สะดุดตาที่เห็นเพื่อนร่วมงานชื่อ อัลเลน

“วันต่อมาพอฉันเจออัลเลน ฉันก็ถามเขาว่า เขารู้จัก แกรีที่เป็นพ่อของฉันไหม อัลเลนอุทานว่า โอ้ มาย ก๊อด เขาเป็นพ่อของผมเหมือนกัน จากนั้นเขาก็ร้องไห้ แล้วดึงฉันเข้าไปกอด บอกว่าดีใจมากๆๆๆ”

วันนั้นเมื่อแซนดริกกลับมาบ้านจึงเล่าเรื่องให้เคน สามีฟัง เขาบอกว่าไม่อยากจะเชื่อเลย

จากนั้นมา แซนดริกก็แลกเบอร์กับอัลเลน และได้รู้ว่า เขาเป็นพี่ชาย อายุมากกว่าเธอ 5 ปี อัลเลนก็ไม่ได้สนิทกับแกรีเช่นกัน ระหว่างนั้นเราก็แลกเปลี่ยนเรื่องราวกันและผูกพันกันมากขึ้น

เดือนมกราคม 2564 ทั้งสองจึงจัดกินอาหารกันในครอบครัว อัลเลนพาภรรยา ชื่อ สเตซี มาร่วมกินข้าวกับครอบครัวแซนดริก

“สัปดาห์ต่อมา อัลเลนติดต่อไปหาพ่อ ตอนแรกพ่อไม่ยอมรับรู้อะไร ฉันเข้าใจปฏิกิริยาของเขานะ มันเป็นเรื่องช็อกสำหรับเราทุกคน แต่เราก็ตกลงเจอกัน มากินอาหารกลางวันที่อัลเลนเป็นเจ้าภาพ

ฉันก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่มันดีมากเลยที่เราได้เจอกัน ฉันค่อยๆ ทำความรู้จักพ่อ โดยที่ไม่ได้พูดถึงอดีต จากนั้นความผูกพันกันก็เป็นไปด้วยดี ดีขึ้นๆ ตอนนี้เขาสนิทกับสามีและลูกๆ ของฉัน เราคุยกันเสมอ

คำแนะนำของฉันสำหรับคนที่คิดตรวจดีเอ็นเอ คือต้องระวัง เพราะมันจะกระทบความรู้สึกคนหลายคน แต่สำหรับฉัน การเจออัลเลน เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่มหัศจรรย์ที่สุด”

……………..

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน