อิสราเอล “เมินโลกหันหลัง” – เอเอฟพี รายงานวันที่ 14 ธ.ค. ว่า ทางการอิสราเอลยืนกรานเดินหน้าทำสงครามกับกองกำลังฮามาสในพื้นที่ใน ฉนวนกาซ่า อย่างต่อเนื่อง
แม้จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนานาชาติ รวมทั้งชาติพันธมิตรเหนียวแน่นอย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งเพิ่มขึ้นภายหลังจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) มีมติสนับสนุนจุดยืนเรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซ่าทันทีเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์
นายเอลี โคเฮน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล กล่าวว่าอิสราเอลจะทำสงครามกับฮามาสต่อไปไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติหรือไม่ก็ตาม “การหยุดยิงจะถือเป็นของขวัญต่อฮามาส รวมทั้งอนุญาตให้ฮามาสกลับมาและคุกคามชาวอิสราเอล” นายโคเฮนกล่าวย้ำ
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า “ผมพูดแบบนี้ท่ามกลางความเจ็บปวดอันยิ่งใหญ่ แต่ในแง่ของความกดดันจากนานาชาติด้วยแล้ว ไม่มีอะไรที่จะหยุดเราได้ เราจะดำเนินต่อไปจนถึงที่สุดจนกว่าจะได้รับชัยชนะ ไม่มีอะไรน้อยไปกว่านั้น”
ด้าน นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาส กล่าวว่าแผนการใดๆ สำหรับฉนวนกาซ่าหลังสงครามที่ไม่เกี่ยวข้องกับฮามาสนั้นถือเป็นภาพลวงตา และว่าฮามาสพร้อมสำหรับการเจรจาที่อาจนำไปสู่เส้นทางทางการเมืองที่รับประกันสิทธิของชาวปาเลสไตน์ในการมีรัฐเอกราชโดยมีกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวง
รายงานจากกระทรวงสาธารณสุขโดยกองกำลังฮามาสระบุว่า การโจมตีของกองทัพอิสราเอลก่อให้เกิดความเสียหายอย่างไม่มีอะไรมาเทียบได้ ทั้งถนนหนทาง โรงเรียน และโรงพยาบาลถูกถล่มพังยับเยิน โดยเฉพาะในเมืองกาซ่าซิตี ข่าน ยูนิส และราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซ่า
Advertisement
ขณะเดียวกันมีเสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศในเมืองเมืองสเดร็อต รวมถึงหลายแห่งในพื้นที่ใกล้ฉนวนกาซ่า และเมืองอัชโดด ติดพรมแดนทางเหนือของกาซ่า โดยจรวดส่วนใหญ่ที่กองกำลังฮามาสยิงข้ามฝั่งมายังอิสราเอลถูกสกัดกั้นไว้ได้
สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งนองเลือดระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 เพิ่มเป็นอย่างน้อย 19,800 ราย เป็นเหยื่อจากเหตุฮามาสโจมตีอิสราเอลราว 1,200 ราย และกว่า 18,600 รายเป็นเหยื่อในกาซ่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: