เฉลิมเกียรติ ลงพื้นที่จ.ชลบุรี สางคดียิง “ฟอส-สปาย” หลังตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 3 คน จับกุมได้ 1 คน เตรียมคุมตัวทำแผนพรุ่งนี้ แฉ ‘เสี่ยอ้วน’ อยู่ด้วยนาทีลั่นไกสังหารโหด เชื่อผู้ต้องหามีกว่า 3 คน ยันหลักฐานแน่น เอาผิดเสี่ยอ้วน

จากกรณีคนร้ายขับรถเก๋งสีขาว ไม่ทราบทะเบียนมาดักซุ่มยิงคู่รัก “น้องสปาย-น้องฟอส” เสียชีวิตคาลานจอดรถ ฝั่งตรงข้ามหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ หลังเดินทางมาเที่ยวพัทยาฉลองวันเกิดกับเพื่อนรวม 4 คน โดยหลังเกิดเหตุตำรวจภาค 2 ได้ระดมทีมสืบสวนไล่ล่าแก๊งคนร้าย ตั้งปมชู้สาว มีเสี่ยภูเก็ตที่มาติดพันน้องสปายตกเป็นผู้ต้องสงสัย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

บริเวณลานจอดรถเขาชีจรรย์ที่เกิดเหตุ

เสี่ยอ้วน / เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 31 ก.ค. ที่สภ.นาจอมเทียน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบสำนวนคดีดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า ในวันนี้ตนเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในคดีทีคนร้ายก่อเหตุยิงนายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 20 ปี และน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี จนเสียชีวิตที่บริเวณลานจอดรถเขาชีจรรย์ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 3 ราย

 

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว 1 ราย ได้ให้การเบื้องต้นว่า เป็นผู้ทำหน้าที่ให้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตเดินทางไปไหนบ้าง ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว ส่วนเสี่ยอ้วนจะเกี่ยวข้องอย่างไรนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน

รถของผู้เสียชีวิตที่ใช้ในวันเกิดเหตุ

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า จากข้อมูลที่พนักงานสอบสวนทราบเบื้องต้นคือ น.ส.ปวีณาได้รู้จักและคุ้นเคยกับเสี่ยอ้วนมาก่อน ทั้งนี้ ผู้ที่กระทำความผิดสามารถติดต่อจนรู้ตัวว่า น.ส.ปวีณาอยู่ที่ไหนจึงสามารถติดตามมาทำร้ายจนเสียชีวิตได้ดังกล่าว ส่วนกรณีที่ปรากฏข้อมูลว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้มีการเปลี่ยนแผนจากการอุ้มเป็นการฆ่านั้น ตรงนี้เรามีข้อมูลอยู่ในสำนวนแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสี่ยอ้วนได้ประสานตำรวจขอเข้ามอบตัวแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ยังไม่มีการประสานมา แต่ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว ส่วนประเด็นที่คนลั่นไกสังหารคู่รักดังกล่าวเป็นอดีตข้าราชการตำรวจนั้น จากหลักฐานยังไม่มีปรากฏในข้อมูล

ร่องรอยคราบเลือดภายในรถของผู้เสียชีวิต

ถามต่อว่า ในวันเกิดเหตุคนร้ายเดินทางมาด้วยกันกี่คนนอกจากเสี่ยอ้วนและมือปืน รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า มีเสี่ยอ้วนเป็นหลัก ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อค้นหาให้ได้ความจริงว่าใครมาด้วย ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ตำรวจสามารถจับกุมได้นั้น ได้มีการเข้าไปตีสนิทกับกลุ่มผู้เสียชีวิต ก่อนจะมีการชี้เป้าให้กลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งกรณีนี้เป็นเทคนิคของเขาในการติดตามและหาข้อมูล

ด้าน พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) กล่าวว่า ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ทางพนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพ ตั้งแต่โรงแรมที่พัก ตลาดน้ำสี่ภาค สวนนงนุช กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุที่เชาชีจรรย์ สำหรับคดีนี้เชื่อว่ายังมีผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการอีกมากกว่า 3 คนที่ได้ออกหมายจับแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ส่งตำรวจลงพื้นที่จ.ภูเก็ตไปตรวจสอบธุรกิจของเสี่ยอ้วนแล้ว

ผู้ต้องหาหนึ่งในทีม เสี่ยอ้วน

พล.ต.ท.จิตติ กล่าวต่อว่า ดังนั้น เราจึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดให้ทราบได้ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหานั้น แต่ละคนจะได้รับคำสั่งจากเสี่ยอ้วนว่าใครทำหน้าที่อะไร แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่ามีกี่คน แต่มากกว่า 2 คนแน่นอน ทั้งนี้ ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนมีหลักฐานแน่หนา สามารถเอาผิดเสี่ยอ้วนแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน