“บิ๊กโจ๊ก” ฟันธงคดี สาวจีน ตกโตนงาช้าง เสียชีวิตจากการถูก ฆาตกรรม จ่อเอาผิดหนุ่มคนสนิท ประสานสถานทูตจีนเร่งล่าอีก 1 ผู้ร่วมก่อเหตุ เผยถอนวีซ่าผู้ต้องสงสัยแล้ว ระบุผลชันสูตรชัดเจน

สาวจีน-หนุ่มคนสนิทผู้ต้องสงสัยฆาตกรรม

สาวจีน-หนุ่มคนสนิทผู้ต้องสงสัยฆาตกรรม

จากกรณีพบ น.ส.เทียน เหล่ย อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตบริเวณแอ่งน้ำชั้น 1 น้ำตกโตนงาช้าง ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามาจากอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่างจากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ทั้งกระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัวที่ถูกนำมาทิ้งถังขยะ โทรศัพท์มือถือถูกทิ้งในน้ำ แต่ถูกถอดซิมการ์ดออกไป พาสปอร์ตถูกฉีกทิ้ง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดี ว่าจากการตรวจสอบพยานหลักฐาน ทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์และที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นการฆาตกรรมอย่างแน่นอน เนื่องจากน.ส.เทียน เหล่ย เสียชีวิตก่อนจะจมน้ำ และล่าสุดเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากประเด็นชู้สาว

ศพสาวจีนลอยติดโขดหินที่น้ำตกโตนงาช้าง (แฟ้มภาพ)

ศพสาวจีนลอยติดโขดหินที่น้ำตกโตนงาช้าง (แฟ้มภาพ)

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คาดว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดมากกว่า 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายไฮ หลง จ่าว ผู้ต้องสงสัย เพื่อนชายของ น.ส.เทียน เหล่ย พร้อมทั้งเพิกถอนวีซ่า ตามพ.ร.บ.สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจได้ประสานไปยังสถานทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับน.ส.เทียน เหล่ย เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย ได้เดินทางกลับไปยังประเทศจีนแล้ว และเชื่อว่าภายใน 2 สัปดาห์นี้ พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ รวมถึงจะเร่งติดตามผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

_____________________________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน