คุมฝากขัง ‘ปริญญา’ พี่ชายดาราบูม โกงเงินบิตคอยน์ จนท.ค้านประกัน ระบุมีพฤติกรรมหลบหนี ขณะที่ทนายยื่นหลักฐาน 4.5 ล้านบาท ลุ้นศาลให้ประกันหรือไม่

โกงเงินบิตคอยน์ / เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ต.ค. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ ร.ต.อ.ศุภชัย ชาติมนตรี พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ควบคุมตัว นายปริญญา จารวิจิต อายุ 35 ปี พี่ชายนายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม นักแสดงซีรีย์วัยรุ่น มายื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12 – 23 ต.ค. โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ่านข่าว : นาทีล็อกตัวพี่ชาย‘บูม-จิรพิสิษฐ์’ นายแบบดัง คาสุวรรณภูมิ ตุ๋นบิทคอยน์ 797 ล้าน

ทั้งนี้คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ได้รับตัวนายปริญญา จากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ กดติดตาม ไลน์ข่าวสด ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

สืบเนื่องจากเมื่อ ระหว่างวันที่ 24 มิ.ย. – 30 ธ.ค. 2560 นายปริญญาได้ร่วมกับนายจิระพิสิษฐ์ จารวิจิต และ น.ส.สุพิชญาย์ จารวิจิต ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ร่วมกันฉ้อโกง นายอาร์นี ออตตาวา ซาอ์ริมาอ์ ชาวฟินแลนด์ ซึ่งประกอบธุรกิจซื้อ-ขายแลกเปลี่ยน สกุลเงินดิจิตอล จำนวน 3 ครั้ง

กล่าวคือระหว่าง วันที่ 24 มิ.ย. -19 ก.ค. 2560 นายปริญญา ผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันวางแผน และสมคบกันนำความเท็จหลอกลวงและปกปิดข้อเท็จจริง ทำให้ให้นายอาร์นีหลงเชื่อ ร่วมลงทุนซื้อหุ้นบริษัทเอ็กซ์เปย์ ซอร์ฟแวร์ จำกัด และ บริษัทเอ็นเอ็กซ์ เชน อินคอร์ปอเรต โดยการโอนเงินดิจิตอล จำนวน 1,250 บิตคอยน์ คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 92,696,500 บาท ให้แก่กลุ่มผู้ต้องหา

จากนั้นระหว่าง เดือน ก.ค. – วันที่ 5 ก.ย. 2560 นายปริญญา กับพวกได้ร่วมกันวางแผนและสมคบกันนำความเท็จหลอกลวงและปกปิดข้อเท็จจริง ทำให้นายอาร์นีหลงเชื่อร่วมลงทุนซื้อเงินดรากอน คอยน์ โดยโอนเงินดิจิตอล จำนวน 2,958.75948993 บิตคอยน์ คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 440,007,281.33 บาท ให้แก่กลุ่มผู้ต้องหา

ต่อมาระหว่างเดือน ส.ค. – วันที่ 30 ธ.ค. 2560 นายปริญญากับพวกได้ร่วมกันวางแผนและสมคบกันนำความเท็จหลอกลวงและปกปิดข้อเท็จจริง ทำให้นายอาร์นีหลงเชื่อร่วมลงทุนซื้อหุ้นบริษัท ดีเอ็นเอ (2002) จำกัด (มหาชน) จำนวน 345,000,000 หุ้น โดยโอนเงินดิจิตอล จำนวน 1355.55701967 เหรียญบิตคอยน์ คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 264,708,973 บาท ให้กับกลุ่มผู้ต้องหา เหตุเกิดที่ไพด์คอนโด แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม.

รวมรายการโอนเหรีญบิตคอยน์ ที่นายอาร์นี โอนไปเข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ที่กลุ่มนายปริญญา ผู้ต้องหากับพวกที่เปิดรองรับไว้ จำนวน 19 ครั้ง คิดเป็นเงินไทยจำนวน 797,408,454.33 บาท จากนั้นกลุ่มผู้รับโอนบิตคอยน์ ได้นำเหรียญบิตคอยน์ไปขายผ่านระบบการซื้อขายในอินเตอร์เน็ต แล้วจึงนำเงินที่ได้จากการขายโอนเข้าบัญชีธนาคารที่เปิดไว้

จากนั้นนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ.2556 อันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 มาไว้ในการครอบครองของคน

จากนั้นนายปริญญา,นายจิรัฐพิสิษฐ์และน.ส.สุพิชฌา ได้สมคบกันฟอกเงิน ด้วยการโอนเงินอันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดไปมาอีกหลายครั้ง แล้วนำเงินดังกล่าวไปทำการ โอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ว่าก่อน หรือ ขณะ หรือหลังกระทำความผิด

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง ได้จับกุมตัวนายปริญญา ผู้ต้องหาได้ที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 10 ต.ค. 2561 แล้วนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันฟอกเงิน” อันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18),มาตรา 5 (1)(2)(3) มาตรา 9 และมาตรา 60 ประกอบกฎหมายอาญา มาตรา 83

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุว่า ได้สอบสวนผู้ต้องหามาตลอด แต่ยังไม่เสร็จสิ้นและจะครบกำหนด 48 ชั่วโมง แต่จะต้องรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา จึงขออำนาจศาลฝากขังมีกำหนด 12 วัน และเนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก อีกทั้งผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนีมาโดยตลอด โดยมีการหลบหนีไปต่างประเทศและถูกเพิกถอนหนังสือเดินทาง จนกระทั่งถูกส่งตัวกลับมายังประเทศไทย พนักงานสอบสวนจึงขอคัดค้านการประกันตัว

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ต่อมาทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์ที่ดินจำนวน 2 แปลง ราคาประเมินรวม 4.5 ล้านบาทเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

ไม่พลาดข่าวสำคัญ กดติดตาม ไลน์ข่าวสด ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน