จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นร้านเเอเรีย 51 อาคารธนดลแมนชั่น ซอยอินทามระ 51 แขวงดินแดง เขตห้วยขวาง กทม. ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง สามีนางเอกสาว แพท ณปภา เบื้องต้นได้อายัดรถหรูลัมโบร์กินี ทะเบียน กจ 51 กทม. มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท รถ จยย.บิ๊กไบก์เคทีเอ็ม รุ่นซูเปอร์ดุ๊ก รถ จยย.บิ๊กไบก์บีเอ็ม ดับเบิลยู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อาวุธปืน 2 กระบอก จากนั้นวันที่ 3 ก.พ. “เบนซ์ เรซซิ่ง” พร้อมแม่และทนายความได้เดินทางเข้าชี้แจงรายละเอียดที่ บช.ปส. เบื้องต้น ได้ปฏิเสธไม่รู้จักกับนายไซซะนะ พ่อค้ายา รายใหญ่ แต่รับรู้จักกับนายบอย เพราะชอบเรื่องรถเหมือนกัน รวมทั้งยังยอมรับว่ายืมเงิน นายบอย จำนวน 6 ล้านบาท เพื่อไปซื้อดาวน์รถลัมโบร์กินี ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมี ข้อสงสัยเรื่องเงินที่เบนซ์ยืมจากนายบอย ว่าได้มีการยืมกันจริงหรือไม่ หรือมีการชดใช้ กันอย่างไร รวมทั้งยังต้องตรวจสอบบัญชีธนาคารด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว เลขาปปส.จี้เบนซ์ ปม6ล้าน ขอดูหลักฐานกู้ยืม แจงไม่ได้-ยึดแน่รถลัมโบร์กินี

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ของนายไซซะนะ แก้วพิมพา ว่า ในวันที่ 6 ก.พ. เวลา 10.00 น. จะมีการประชุม 3 ฝ่าย คือกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพ (ปปส.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือปปง. โดยจะมีการพูดคุยกันในหลายประเด็น ซึ่ง 1 ในประเด็นสำคัญ คือกรณีของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง ที่ให้การอ้างว่า ยืมเงินจำนวน 6 ล้านบาท จากนายณัฐพล หรือ บอย ผู้ต้องหาในคดี ซึ่งหลังได้ข้อสรุปจากที่ประชุม จะเรียกนายอัครกิตติ์เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการออกหมายเรียกดาราหรือกลุ่มไฮโซที่อาจเกี่ยวข้องกับนายไซซะนะ และกระแสข่าวที่มีลูกชายอดีตนักการเมืองชื่อดัง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวน และจะต้องรอขอสรุปจากที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ แต่หากพบว่ามีหลักฐานไปถึง ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทันทีโดยไม่ละเว้น และตำรวจจะตรวจสอบหลักฐานที่อายัดไว้ โดยหากพบว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ ก็จะเสนอให้สำนักงานปปส. ออกคำสั่งอายัดและให้ทางปปง.ดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป

รอง ผบช.ปส.กล่าวว่า ส่วนประเด็นอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำพฤติการณ์ของกลุ่มเครือข่ายจากผลการปฏิบัติการในช่วงที่ผ่านมาจากการเข้าตรวจค้น 39 เป้าหมาย 41 จุดตรวจค้น รวมทั้งการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา 9 หมายจับ ที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ 3 รายเท่านั้น

นอกจากนี้ จะมีการพูดคุยถึงหลักฐานที่อายัดไว้ โดยจะนำมาตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างไรกับขบวนการนี้ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะเสนอให้สำนักงาน ป.ป.ส.ออกคำสั่งอายัดและให้ทาง ปปง.ดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ทั้งนี้ ในการทำงานตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา มีอุปสรรคในเรื่องการตรวจสอบ เพราะหลักฐานและทรัพย์สินมีจำนวนมาก ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและยังตรงกับในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งหยุดราชการ จึงทำให้การทำงานต่างๆ ต้องรอที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ และหน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบเสร็จสิ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน