คุมไอ้อั๋นทำแผน ฆ่าพยาบาลสาว รพ.ภาชี เล่านาทีใช้คัตเตอร์ปาดคอ จ้วงแทงที่หน้าอก ก่อนจับหัวกดกับเบาะรถจนขาดใจตาย แล้วทิ้งศพคาเก๋ง แค้นไม่ให้ยืมเงิน

จากกรณีพบศพ น.ส.ศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ อายุ 48 ปี พยาบาลวิชาชีพ รพ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตในรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ญฉ-5426 กรุงเทพฯ บริเวณกลางซอย ฝั่งตรงข้ามรพ.ภาชี หมู่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ก่อนที่ตำรวจจับกุม นายอั๋น หรือน็อต ฟักศิริ อายุ 33 ปี อดีตเจ้าหน้าที่เวรเปล ร.พ.ภาชี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ฆ่าพยาบาลสาว / ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 มี.ค. ที่สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.อําพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธีระวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายอั๋น หรือน็อต ฟักศิริ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 4 ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 76/2562 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2562 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท 1 เส้น แหวนทอง 2 สลึง 1 วง รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็คซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บล3777 พระนครศรีอยุธยา กระเป๋าหนังคาดเอว สีดำ-แดง 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อหัวเหว่ย สีดำ 1 เครื่อง และชุดในวันก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในวัดลาดชิด ต.ลาดชิด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มญาติของทางผู้เสียชีวิตเฝ้าร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธวัชชัย จันทร์เรื่อง สว. (สอบสวน) สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมภายในรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญฉ 5426 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดบริเวณถนนซอยทางเข้าหอพัก โดยตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม โรงพยาบาลภาชี ม.2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

ซึ่งจากการตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ศรีสุภางค์ หรือเก่ง สุวรรณศิลป์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/4 ม.5 ต.ระโสม อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพประจำห้องฉุกเฉิน รพ.ภาชี อยู่ในสภาพถูกของมีคมปาดที่บริเวณลำคอ 3 แห่ง และแทงที่กลางหน้าอกหลายแผล นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าอยู่เบาะหลังตัวพาดยาวอยู่ระหว่างกลางเบาะรถ และมีร่องรอยการต่อสู้ ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เส้นทางการหลบหนีของคนร้าย

จนกระทั่งสืบทราบว่า เมื่อเวลา 00.15 น. ของวันที่ 10 มี.ค. ผู้ตายออกเวรจากห้องฉุกเฉิน ก่อนเดินมาขึ้นรถคันเกิดเหตุ ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถหน้ารพ.ภาชี เมื่อขับออกจากโรงพยาบาล ขณะที่จอดรถรอเลี้ยวซ้ายเพื่อขึ้นถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าหนองแค จู่ๆ นายอั๋น ซึ่งขับรถกระบะของกลางมาจอดรออยู่ตรงข้ามทางเข้าโรงพยาบาลภาชี ก่อนเดินปรี่ขึ้นรถของผู้ตายไป จากนั้นผู้ตายขับรถขึ้นถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าไปทางหนองแค

“ต่อมาเวลาประมาณ 01.10 น. รถของผู้ตายขับมาจอดที่ซอยจุดเกิดเหตุ โดยมีผู้ต้องหาลงจากรถฝั่งคนขับเพียงผู้เดียว ก่อนเดินวนใช้ผ้าเช็ดหน้ามาเช็คที่เปิดประตูหน้าฝั่งซ้ายข้างคนขับ จากนั้นเดินขึ้นรถกระบะที่จอดแน่นิ่งอยู่ตรงปากทางเข้ารพ.ภาชี ก่อนขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งหน้าไปที่บ้านพักซึ่งอยู่แถววัดวิมลสุนทร ก่อนทางเจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าว

ด้านพล.ต.ท.อําพล เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุแรงจูงใจนั้นก่อนหน้านี้นายอั๋นไปขอยืมเงินผู้เสียชีวิต จำนวน 3 พันบาท วันเกิดเหตุไปขอยืมเงินผู้ตายอีก 1 หมื่น แต่กลับถูกด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย จึงเกิดบันดาลโทสะใช้อาวุธมีดคัตเตอร์ที่พกติดตัวมากระหน่ำปาดคอ 3 แห่ง และแทงหน้าอก จากนั้นจับศีรษะกดกับเบาะหลังจนขาดอากาศหายใจ ก่อนฉวยนำสร้อยคอและแหวนของผู้ตายไปขาย เพื่อนำเงินไปจ่ายค่างวดรถ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาก่อเหตุเสร็จสิ้นก็ขับรถกระบะกลับบ้านพัก ก่อนย้อนกลับมาจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อนำมีดคัดเตอร์ที่ลืมไว้และกล้องวงจรปิดภายในรถไปทิ้ง ซึ่งแท้จริงแล้วผู้ต้องหาจะไปยืมเงินคนชื่อตู่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล แต่ระหว่างนั้นพบผู้ตายเดินออกมาหลังจากออกเวร ซึ่งรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี เนื่องจากเคยยืมเงินกันมาก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ซึ่งไม่มีการนัดกันล่วงหน้าแม้แต่อย่างใด จนกระทั่งปรากฏตามภาพจากกล้องวงจรปิด

ผู้ต้องหายอมรับสารภาพในส่วนของคดีเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ตายยังไม่ได้พูดถึงแม้แต่อย่างใด โดยหลังจากนี้จะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ร่วมกันควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จนแล้วเสร็จ ซึ่งมีกำลังจากหน่วยปฎิบัติพิเศษ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา 30 นาย คอยคุ้มกันอย่างแน่นหนา โดยมีครอบครัวของผู้เสียชีวิตและกลุ่มไทยมุงเป็นจำนวนมาก ต่างพากันมาเฝ้าร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ โดยไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงแม้แต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน