ครูชลธี ธารทอง ขึ้นศาลฟ้องหย่า ครูปุ้ม เมียเก่า แฟนคลับทั้ง 2 ฝ่าย รอให้กำลังใจ ลูกสาวหวังทั้งคู่ตกลงด้วยดี ไม่อยากให้พ่อต้องมาเสียชื่อเสียงตอนแก่

กรณีที่ครูชลธี ธารทอง ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดัง และศิลปินแห่งชาติ ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ตนกำลังฟ้องหย่ากับนางศศิวิมล ทองมา หรือ ครูปุ้ม อายุ 51 ปี ภรรยา ซึ่งอยู่กินกันมาเป็นเวลา 27 ปี เพื่อที่จะได้แต่งงานและใช้ชีวิตกับหญิงรู้ใจคนใหม่ ตามที่เสนอข่าวนั้น

ครูชลธี ธารทอง / เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี ศาลนัดครูชลธี ธารทอง หรือนายสมนึก ทองมา อายุ 81 ปี ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดัง พร้อมด้วย นางศศิวิมล ทองมา หรือ ครูปุ้ม ภรรยาที่อยู่กินกับครูชลธีมาหลายสิบปี มาเพื่อพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ย ในกรณีที่ครูชลธียื่นฟ้องต่อศาลเพื่อขอหย่าขาดกับนางศศิวิมล ซึ่งบรรยากาศที่หน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรีตั้งแต่ช่วงเช้า มีบรรดาแฟนคลับของครูชลธีและครูปุ้มมาเฝ้ารอให้กำลังใจทั้ง 2 คนเป็นจำนวนมาก

กระทั่งเวลาประมาณ 08.30 น. ทางครูปุ้มเดินทางมาถึงที่ศาลเป็นคนแรก พร้อมด้วยทนายความ ก่อนจะรับดอกไม้จากบรรดาแฟนคลับที่มารอให้กำลังใจ

โดยครูป้อม ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ยังคงตั้งความหวังว่า ครูชลธีจะคิดได้ และสามารถพูดคุยหาข้อสรุปกันได้ด้วยดี เพราะตนไม่ได้ทำผิดอะไรตามที่ครูชลธียื่นฟ้องต่อศาล หากในวันนี้ไม่สามารถพูดคุยตกลงกันได้ ก็พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริง ตามกระบวนการยุติธรรม การที่มาศาลในวันนี้ เนื่องจากทางโจทย์ต้องการให้เรามาตกลงแล้วก็ไกล่เกลี่ยในเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดจากพี่ แต่เกิดจากโจทก์

“ฉะนั้นพี่เองก็ต้องมาเคลียร์ เคลียร์ให้มันชัดเจน แล้วต่อไปมันจะได้เป็นมาตรฐานให้กับผู้หญิงทั้งโลก ที่โดนกระทำ ซึ่งที่จริงแล้วพี่เองไม่อยากจะออกมาตรงนี้ ไม่อยากจะออกมาให้เป็นข่าว แต่วันนี้จะต้องออกมาให้เป็นข่าว เพื่อศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง” ครูปุ้ม กล่าว

เมื่อถามว่า การไกล่เกลี่ยในวันนี้จะประสบผลสำเร็จหรือไม่นั้น พี่คิดว่าขึ้นอยู่ที่โจทย์ ว่าโจทย์ต้องการอะไร โจทย์ต้องการใบหย่า และถามว่าอย่าเพื่ออะไร ซึ่งก็บอกได้อย่างเดียวว่า โจทย์ต้องการไปแต่งงานใหม่ เหมือนที่เห็นในข่าว

ซึ่งเราเองในฐานะที่เป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เราไม่ได้ผิดอะไรเลย แล้วที่โจทก์ยื่นเอกสารทั้งหมดเป็นเอกสารเท็จทั้งสิ้น สำหรับธงที่ตั้งใจเอาไว้ในวันนี้ก็คือ “ไม่หย่า” พี่มาเพื่อศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง และเพื่อปกป้องทุกอย่างเอาไว้ให้กับลูก เพราะทุกวันนี้ ครอบครัวของเราหมดไปเยอะแล้ว และขอยืนยันอีกครั้งว่า พี่จะไม่อย่า

สำหรับหลักฐานที่นำมาในวันนี้ มีหลักฐานเป็นพยานบุคคล พยานเอกสาร ซึ่งข้อกล่าวหาประมาณ 5 ข้อกล่าวหา เป็นการกล่าวหาเท็จทั้งสิ้น รวมทั้งการที่โจทก์ไปให้สัมภาษณ์ทางทีวี ในเรื่องของการด่าบุพการี รวมทั้งเรื่องการทุบตีนั้น ก็เป็นเรื่องที่ไม่จริง ซึ่งทางดิฉันก็จะฟ้องกลับโจทก์เช่นกัน เพราะทำให้ดิฉันรับความเสียหาย เพราะดิฉันเป็นครู ดิฉันสอนเด็ก ฉะนั้นการที่โจทก์ไปพูดอย่างนั้นที่ทีวี ลูกศิษย์ดิฉันจะคิดอย่างไร แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่สาย ถ้าโจทก์คิดได้ กลับตัวได้ ให้ถอนฟ้องครูปุ้มซะ อย่าให้เรื่องมันยาวไปมากกว่านี้ เพราะครูปุ้มเองก็จะสู้ไม่ถอย

น.ส.ชลาลัย ทองมา อายุ 37 ปี ลูกสาวของครูชลธีที่เดินทางมาที่ศาล เพื่อมารอติดตามข่าวในครั้งนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนเดินทางมาครั้งนี้ก็เพื่อจะให้กำลังใจกับทั้ง 2 คน ซึ่งตนยังหวังว่าทั้งคู่จะสามารถพูดคุยตกลงกันได้ด้วยดี เพราะตนก็รักและเคารพทั้ง 2 คนเป็นอย่างมาก อีกทั้งตนไม่อยากให้ผู้เป็นพ่อต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียงในช่วงบั้นปลายของชีวิตแบบนี้

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในฐานะที่เป็นลูกสาวของครูชลธีธารทอง มาถึงตรงนี้แล้ว ก็มีความรู้สึกกังวลใจ จริงๆเราไม่อยากให้เรื่องมาถึงจุดนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อยากให้เรื่องจบลงด้วยดี อยากให้กลับมีความรู้สึกเหมือนเดิมอยู่แล้ว เพราะคนเราไม่อยากเห็นคนที่เรารักทั้งสองคนต้องแยกกันไปหาคนอื่น ถามว่าวันนี้ถ้าเจอพ่อจะพูดอะไรกับพ่อบ้าง ก็อยากจะถามความรู้สึกของแก ก็บอกตรงๆว่าไม่ได้คุยกับแกมานานตั้งแต่มีเรื่องกัน ก็อยากจะรู้ว่าตอนนี้แกมีความรู้สึก มีความคิด ความอ่าน หรือว่ามีความสุขแล้วจริงๆหรือ

ซึ่งเราก็คิดถึงว่าอยากจะให้แกกลับมา กลับมาเป็นแบบพ่อลูกกันเหมือนเดิม มีอะไรก็ให้ปรับทุกข์กับลูกก่อนก็ได้ และก็อยากให้แกคิดลึกๆ เพราะว่าพ่อแก่แก่มากแล้ว ไม่อยากให้ต้องมาสูญเสียทั้งชื่อเสียงและอะไรอีกหลายๆอย่าง และอยากกล่าวถึงครูปุ้มว่า เป็นกำลังใจให้เสมอ เพราะน้าปุ้มดูแลเรามาตลอด

จากนั้น ในเวลา 09.00 น. ครูชลธี ธารทอง เดินทางมาถึงศาลพร้อมกับทนายความ ก่อนจะรีบเดินทางขึ้นไปบนห้องพิจารณาทันที โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ กับสื่อมวลชน ซึ่งผลการเจรจาในวันนี้จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น บรรดาแฟนคลับและผู้ที่ติดตามข่าวนี้ก็ยังคงเฝ้ารออยู่ที่หน้าศาลอย่างใกล้ชิด

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ด้าน ดร.ธณัฐพล ชะอุ่ม ทนายความส่วนตัวครูปุ้ม เปิดเผยว่า วันนี้ศาลนัดมาเจรจากัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของแต่ละฝ่าย โดยแต่ละฝ่ายย่อมรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็ขอให้เป็นเรื่องของครูปุ้มกับคู่กรณีที่จะตัดสินใจว่าจะ ดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนตัวผมขอพูดแค่นี้ก่อน

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน