จากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนเข้าจับกุม น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน หลังจากเกิดเหตุนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นจำนวนนับพันถูกลอยแพ จนต่อมาสามารถจับกุมตัวได้ที่ จ.ระนอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวเดินทางมายังกองปราบเพื่อสอบสวนพร้อมได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของน.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมขอเข้าพบเพื่อพูดคุยกับ น.ส.พสิษฐ์ ในเรื่องคดี โดยภายหลังการพูดคุยเบื้องต้นนายนิติศักดิ์ทนายความยืนยันว่า เท่าที่ได้พูดคุยมาน.ส.พสิษฐ์ ยืนยันว่าไม่ได้จะเดินทางหนี ส่วนเหตุผลที่เดินทางไปจังหวัดระนอง เพราะหลังเกิดเหตุรู้สึกตกใจ จึงเดินทางไปตั้งหลัก ก่อนจะมีการติดต่อทนายความ เพื่อจะเดินทางเข้ามอบตัว แต่ติดขัดในเรื่องการเดินทางทำให้เดินทางไปไม่ทัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมตัวน.ส.พสิษฐ์

อ่านข่าว จับ”ซินแสโชกุน”หนีไม่พ้น อ่วมคดีตุ๋นทัวร์ญี่ปุ่น จนมุม แฉประวัติแสบ เปลี่ยนมา10ชื่อ

จ่อโดน112ด้วย

นายนิติศักดิ์ กล่าวว่าตน ยืนยันว่า ส่วนตัวเคยช่วยทำคดีเกี่ยวกับเช็คให้กับน.ส.พสิษฐ์ ก่อนหน้านี้มาแล้วครั้งหนึ่ง และไม่รู้ว่าน.ส.พสิษฐ์ ประกอบธุรกิจในลักษณะนี้ ซึ่งตนก็เพิ่งทราบจากน.ส.พสิษฐ์หลังได้พูดคุยช่วงที่ติดต่อให้ไปพบที่จ.ระนอง โดยขณะนั้นยังไม่มีการออกหมายจับ แต่ภายหลังทราบว่าศ่ลออกหมายจับจับน.ส.พสิษฐ์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งต่อจากนี้ต้องดูในข้อกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนในเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะเอาผิดในความผิดหมิ่นเบื้องสูงกับน.ส.พสิษฐ์ หรือไม่ ต้องรอดูทางเจ้าหน้าที่ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ยืนยันว่าขณะนี้มีเพียงน.ส.พสิษฐ์ เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนครอบครัวยังไม่มีการออกหมายจับใดๆทั้งสิ้น

อ่านข่าว ไม่ต้องห่วง! ผบช.ก. ชี้ซินแสโชกุน พูดอะไรก็ได้ ยึดที่หลักฐาน ขยายผลแม่ข่าย 30 คน

รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้ ตัวน.ส.พสิษฐ์ ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่กองปราบปราม เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะฝากขังในวันพรุ่งนี้ ก่อนเที่ยงอีกครั้ง

ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เดินทางมายังกองปราบปรามเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี

พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เปิดเผยว่า ตนไม่มีความกังวลเรื่องการสอบปากคำ เพราะขณะนี้ได้ตัวผู้ต้องหาแล้ว ผู้ต้องหาสามารถพูดแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ แต่ตำรวจก็จะต้องตรวจสอบจากข้อมูลเชิงประจักษ์ คาดว่าภายหลังสงกรานต์จะมีการสอบสวนและได้ข้อมูลที่มีความชัดเจนขึ้น โดยขณะนี้ประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ในเรื่องการยึดทรัพย์แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดโยกย้ายถ่ายโอนทรัพย์สิน แต่จากการตรวจสอบการธุรกรรมกับธนาคารของ ซินแสโชกุนนั้น เบื้องต้นทราบว่ามีจำนวนเงินอยู่ประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งเงินบางส่วนที่มีการแปลงสภาพไปเป็นอสังหาริมทรัพย์แล้วนั้น จะเร่งตรวจสอบเพื่อจะได้นำเงินคืนสู่ผู้เสียหายให้เร็วที่สุด

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ส่วนในกรณีที่ซินแสโชกุนมีการอ้างสถาบันเบื้องสูง ผิดมาตรา 112 นั้น ตอนนี้หลักฐานเอกสารยังไม่มีความเชื่อมโยงอยู่ระหว่างการเร่งหาอุปกรณ์ติดต่อ เช่น โทรศัพท์ของซินแสโชกุน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ อีกทั้งตอนนี้พนักงานสอบสวนได้มีการสืบทราบแล้วว่าเครือข่ายซินแสโชกุนนั้นมีผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่เป็นแม่ข่ายทั้งหมด ประมาณ 30 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเชิญตัวทั้งหมดเข้ามาสอบปากคำ

ผบช.ก. กล่าวต่อว่า สำหรับการจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญานั้น ยืนยันตำรวจจะคัดค้านการประกันตัวแน่นอน เพราะผู้ต้องหาอาจจะไปยุ่งหรือทำลายพยานหลักฐานได้

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน