ใช้กล้องส่องใต้น้ำ หาโครงกระดูก-หลักฐานเพิ่ม ใต้บ่อน้ำบ้าน ไอ้ไอซ์ หีบเหล็ก เผยหากพบใครกระทำผิดร่วมก็จะดำเนินคดีด้วย ยังไม่จำเป็นต้องสูบน้ำออก หลังกทม.ประเมินว่าต้องใช้เวลาถึง 7 วัน
ไอ้ไอซ์ / กรณีตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (กก.ดส.บช.น.) ตำรวจเพชรเกษม และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจค้นบ้านพักย่านบางแค ของนายอภิชัย หรือไอซ์ องค์วิศิษฐ์ อายุ 40 ปี ที่เชื่อว่ามีส่วนในการซ่อนเร้นอำพรางศพ น.ส.วรินทร์ธรณ์ หรือกุ๊กกิ๊ก ไชยเชษฐ อายุ 22 ปี ซึ่งพบเป็นศพถูกฝังดินในพงหญ้าใกล้บ้าน ก่อนจะพบโครงกระดูกรวม 326 ชิ้นก้นบ่อน้ำหลังบ้าน ถูกห่อด้วยผ้า มีดัมเบลยกน้ำหนัก มัดโซ่ใส่กุญแจถูกทับอยู่ใต้ประตูเหล็กและเก้าอี้ม้าหินอ่อนทับอีกหนึ่งชั้น
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
- อ่านข่าว ส่งกระดูกในบ่อบ้าน ‘ไอ้ไอซ์’ เทียบดีเอ็นเอแม่ด.ญ.12 ตร.ได้ภาพเด็กแล้ว
- อ่านข่าว รอผลพิสูจน์ยืนยัน เหยื่อ‘ไอ้ไอซ์’ฆ่าถ่วงน้ำ ระดมงมหาเพิ่ม-ศพหมกหีบเหล็ก
- อ่านข่าว เชื่ออดีตแฟน ‘ไอ้ไอซ์’ ยังไม่ตาย ล่าตัวสอบ รอบช.น.สั่งสูบน้ำออกจากบ่อหาศพเพิ่ม
- อ่านข่าว ญาติร้อง ตร.ช่วยหา ด.ญ.วัย 12 หายตัว หวั่นเป็นเหยื่อ ไอ้ไอซ์ เร่งหาแฟนสาวอีกคน
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะขอหมายเข้าค้นหาพยานหลักฐานในที่เกิดบึงน้ำบ้านนายอภิชัยอีกครั้ง โดยในครั้งนี้จะมีบริษัทค้นหาสิ่งของใต้ทะเลลึก ที่เจ้าของเป็นอดีตทหารเรือที่มีความชำนาญและมีเทคโนโลยีค้นหาทันสมัย ใช้กล้องส่องใต้น้ำจากบนบกตรวจสอบบริเวณบ่อน้ำ ที่พบโครงกระดูกว่ามีพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติมหรือไม่
ทั้งนี้ หากพบว่ามีผู้กระทำผิดร่วมด้วย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นจากการหารือมองว่ายังไม่จำเป็นต้องสูบน้ำออก เพราะกทม.ประเมินว่าต้องใช้เวลาถึง 7 วัน
ขณะนี้รายละเอียดทางสำนวนมีมากทั้งพยานบุคคลและผู้แจ้งเบาะแส ขอเวลาให้ตำรวจตรวจสอบอีกสักระยะ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหลายปี ดังนั้นพยานหลักฐานต่างๆ แทบไม่หลงเหลือสภาพเดิม โดยจะประเมินผลในช่วงบ่ายอีกครั้ง