รมว.ยธ.ยอมรับของในโกดังแปดริ้วเป็นไตรโซเดียมฟอสเฟต ไม่ใช่เคตามีน ยันของกลางไม่ได้หายหรือเคลื่อนย้าย รับขาดองค์ความรู้ ป.ป.ส.คาดใช้อำพรางขนยาเค

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2563 ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) ชี้แจงกรณีการตรวจพิสูจน์วัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นยาเสพติดจำนวน 475 กระสอบ หนัก 11.5 ตัน ในโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

หลังผลตรวจเบื้องต้นจากชุดทดสอบพบสารมีสีม่วง ลักษณะบ่งชี้เป็นองค์ประกอบของเคตามีน และต่อมาป.ป.ส.นำเข้าตรวจสอบในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์พบว่า เป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต จำนวน 66 กระสอบ ส่วนที่เหลืออีกกว่า 400 กระสอบ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม

นายสมศักดิ์ กล่าวยอมรับว่ามีความผิดพลาดทางวิชาการในการตรวจสอบภาคสนาม จึงทำให้เข้าใจว่าวัตถุดังกล่าวเป็นเคตามีน เนื่องจากผลการตรวจเบื้องต้นพบว่ามีสีม่วง ซึ่งเป็นสิ่งที่ป.ป.ส.ไม่เคยพบมาก่อนว่าไตรโซเดียมฟอสเฟตให้ผลตรวจเป็นสีม่วง ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับเคตามีน อย่างไรก็ตามความผิดพลาดที่เกิดขึ้นต้องยอมรับ และยังอาจจะแก้ไขไม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ส่วนปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำงานของป.ป.ส. และกระทรวงยุติธรรม ตนยอมที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์และยอมรับผิด เนื่องจากเป็นความผิดพลาดทางวิชาการที่ขาดองค์ความรู้ใหม่ๆ ซึ่งหลังจากผลตรวจสอบสารดังกล่าวเสร็จสิ้นถึงที่สุดแล้วก็จะต้องมีคนรับผิดชอบ

อ่านข่าว คดีจับใหญ่11.5ตัน ‘ยาเค’วุ่น ตรวจชุดแรกมีแค่‘เคมี’

อ่านข่าว สุดมึน! ของกลาง 11.5 ตัน ยึดจากโกดังบางปะกง พบบางส่วนไม่ใช่ยาเค

อ่านข่าว ลุยตรวจที่เหลือ! ป.ป.ส.แจ้งความ ยึดยาเคเป็นไตรโซเดียมฟอสเฟต ไม่สลับของกลาง

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ ตนประสานให้กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (พฐ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และป.ป.ส. ร่วมกันนำวัตถุดังกล่าวไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของแต่ละหน่วยงานให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ และหน่วยงานวิชาการอื่นๆ จะร่วมตรวจ หรือขอตัวอย่างไปตรวจสอบด้วยก็ยินดี เพราะต้องการให้ประชาชนรับทราบความชัดเจนของผลตรวจในห้องปฏิบัติ และตนยืนยันว่าของกลางทั้งหมดไม่ได้หาย หรือเคลื่อนย้ายไปไหนทั้งสิ้น

ส่วนข้อสงสัยว่ารัฐมนตรีมีอำนาจในการเซ็นรับรองของกลางนั้น ยืนยันว่าตามระเบียบราชการไม่ได้ให้อำนาจรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องในการเก็บของกลาง

“ยอมรับว่าอาจจะเร็วเกินไปที่แถลงข่าวผลจับกุมวัตถุต้องสงสัย แต่เมื่อป.ป.ส.ได้รับการประสานผลจับกุมยาเคตามีนได้ที่ไต้หวัน และก็สืบสวนจนพบแหล่งที่มา จึงเป็นความเชื่อมโยงที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ถ้าผมไม่ได้ไปแถลงข่าว ก็ถือว่าบกพร่อง ซึ่งกรณีแบบนี้ทาง UNODC เคยแจ้งว่า ปัญหาลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ มาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่เพิ่งเกิดขึ้นในประเทศไทยครั้งแรก ซึ่งในวันแถลงข่าว ผมก็ไม่ได้ฟันธงร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าเป็นเคตามีน” รมว.ยุติธรรม กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผลกระทบจากความเข้าใจผิดของคนในสังคม ทำให้มีการนำข่าวไปเชื่อมโยงจนเกิดความเสียหายกับบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ตนจึงตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจติดตามการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จทางคอมพิวเตอร์ โดยมีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานคณะทำงาน ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ผู้แทนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด และตำรวจ ปอท. ซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลที่เป็นเท็จ และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ

ขอชี้แจงว่าการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งประชาชนที่แสดงความคิดเห็น สิ่งที่เป็นผลกระทบต่อกระทรวงยุติธรรม หรือป.ป.ส.ยอมรับได้ ผิดก็ต้องยอมรับ แต่การสร้างความสับสนเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น เป็นสิ่งที่ไม่สมควร จึงต้องตั้งคณะกรรมการสอบ

ด้านนายวิชัย กล่าวว่า ผลตรวจวัตถุต้องสงสัยที่บ่งชี้ว่าเข้าข่ายเป็นสารเสพติดเคตามีนในวันแถลงข่าวมี 2 หน่วยงานที่ร่วมตรวจคือ กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ) และป.ป.ส. ซึ่งผลตรวจเป็นบวกเหมือนกันทั้ง 2 หน่วยที่บ่งชี้ว่าเป็นยาเสพติด โดยผลการตรวจของ พฐ.ให้ผลสีส้ม

ขณะที่ป.ป.ส.ให้ผลสีม่วง ซึ่งสารเสพติดที่ให้ผลสีม่วงไม่ได้มีเฉพาะเคตามีน แต่มีอีก 2-3 ชนิดที่ให้ผลสีม่วง ยืนยันว่าไตรโซเดียมฟอสเฟตไม่ใช่สารเสพติด แต่เป็นสารนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และผลิตภัณฑ์นมเพื่อไม่ให้ตกตะกอน

ส่วนสารดังกล่าวจะนำเข้าจากที่ไหน หรือนำไปใช้ในกิจการใดนั้น เป็นอำนาจสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องขยายผล แต่เชื่อว่านำมาใช้เพื่ออำพรางยาเสพติด หรือเคตามีน เนื่องจากมีลักษณะทางกายภาพไม่แตกต่างกัน ป.ป.ส.ยังไม่มีข้อมูลเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนกลุ่มนี้ไม่เคยกระทำความผิด

ส่วนที่ไม่ได้จับกุมผู้เช่าโกดัง เนื่องจากหลบหนีไปก่อนหน้านี้ แต่เจ้าหน้าที่ก็ตามตัวไปยังภูมิลำเนา เพื่อรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับในคดีที่เชื่อมโยงกับการจับกุมเคตามีนได้ที่ไต้หวันแล้ว

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ป.ป.ส.จะจัดสัมมนาเพื่อหาองค์ความรู้ในเรื่องสารเสพติดที่ให้ผลตรวจสีม่วง โดยจะร่วมกับหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ (DEA) และ UNODC รวมทั้งสถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพื่อรวบรวมองค์ความรู้ใหม่ๆ ในสัปดาห์หน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน