เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.พ. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความ พร้อมกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ปี 2553 มายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด(อสส.) ขอให้ติดตามและสอบถามความคืบหน้าในคดีสลายการชุมนุม เนื่องจากทราบว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการบางส่วนแล้ว โดยมีนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอสส. เป็นผู้รับหนังสือ

นายโชคชัย กล่าวว่าในฐานะทนายของญาติผู้เสียชีวิต ยื่นหนังสือขอให้อสส. เร่งรัดฟ้องคดีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการสลายการชุมนุม ซึ่งเดิมดีเอสไอเคยมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ แต่ภายหลังศาลชี้ว่าคดีอยู่ในอำนาจคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

นายโชคชัย กล่าวว่า แต่เรื่องนี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องอื่นที่เป็นผู้กระทำความผิดด้วย เช่น ผู้ที่ลงมือกระทำ และผู้สั่งการระดับปฏิบัติงาน ซึ่งตนทราบว่าคดียังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ยังไม่มีการส่งตัวฟ้องหรือสั่งฟ้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดดังกล่าว จึงมายื่นหนังสือต่ออสส. โดยในคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพที่ศาลเคยมีคำสั่งแล้ว ส่วนใหญ่พบว่าผู้เสียชีวิตถูกกระสุนปืนจากฝั่งเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด อย่างในเหตุการณ์ที่วัดปทุมวนาราม ก็ปรากฏตัวผู้กระทำความผิดชัดเจน เราจึงขอให้ดำเนินการเพราะเหตุการณ์นี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว ถือว่านานมาก

เมื่อถามว่าดีเอสไอสรุปสำนวนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องบางส่วนให้อัยการแล้วใช่หรือไม่ นายโชคชัย กล่าวว่า ทราบว่าดีเอสไอดำเนินการในเรื่องนี้และสรุปสำนวนส่งให้อัยการแล้ว การเสียชีวิตของผู้ชุมนุมมีจำนวนมากในหลายพื้นที่ ในรายละเอียดที่ดีเอสไอสรุปสำนวนของเจ้าหน้าที่คนใดบ้างนั้น ทางทนายและญาติก็ยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีความเห็นควรสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องใครบ้าง แต่ยืนยันว่าเหตุการณ์มีผู้กระทำความผิดชัดเจน และทหารที่ปฏิบัติการอยู่ขณะนั้นก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งจะมีผู้เกี่ยวข้องในหลายระดับ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนจะต้องสืบไปถึงผู้สั่งการและผู้ลงมือกระทำ ตอนนี้เราทราบว่ามีการสอบสวน และมีข่าวในทางที่ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตรู้สึกกังวลในคดี

นายโชคชัย กล่าวว่า ในส่วนของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ศาลฎีกาชี้ว่าเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ที่ต้องส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทางญาติได้ไปยื่นเรื่องติดตามบ้างแล้ว รอการแจ้งตอบกลับของป.ป.ช.ว่าเรื่องถึงไหนแล้ว และทางญาติยังไม่ทราบว่า ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนขึ้นมาแล้วหรือไม่

ด้านนายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า จากที่ทนายความระบุเรื่องมีอยู่หลายที่ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าสำนวนอยู่ในชั้นใด แต่เมื่อได้รับคำร้องเร่งรัดคดีในวันนี้ จะนำเรียนอสส. ถ้าเรื่องใดที่อยู่ในอำนาจของอสส. ตนจะส่งให้อสส.ขอให้เร่งรัดในคดีตามที่มีคำร้องมา เราจะติดตามความคืบหน้าเพื่อแจ้งให้ทนายและญาติผู้เสียชีวิตทราบ ส่วนหากสำนวนยังไม่มาถึงอัยการ เราจะเรียนผู้บังคับบัญชาว่าจะมีทางใดที่จะให้ความเป็นธรรมได้บ้าง นโยบายของอสส. หากมีคำร้องมาเราจะต้องตอบได้ทุกเรื่อง หากดีเอสไอส่งสำนวนมาจริง คดีนี้จะเข้าสู่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ

เมื่อถามว่าใช้เวลาตรวจสอบนานหรือไม่ว่า สำนวนจากดีเอสไอส่งเข้ามาถึงอัยการแล้วหรือไม่ นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ถ้าสำนวนอยู่ที่อัยการ ใช้เวลาวันเดียวก็ตรวจสอบได้แล้ว ปัญหาคือมีสำนวนเข้ามาแล้วหรือไม่ และถ้ามีสำนวนเข้ามาแล้ว เราสามารถแจ้งญาติผู้เสียชีวิตได้ว่าคดีอยู่ในขั้นตอนไหน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน