จากกรณีเกิดเหตุร.ต.อ.อิสระพงษ์ กุลจินดา รอง สวป.สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนนายศุภสิทธิ์ หม่องเลี้ยง อายุ 37 ปีตำรวจอาสา ชุดปราบปรามพิเศษ ถูกยิงเข้าหน้าท้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะเข้าระงับเหตุ นายนิรุต จิตหมั่น อายุ 39 ปี เมาสุราแล้วคลุ้มคลั่งมีอาวุธปืน บริเวณบ้านเลขที่ 207/275 หมู่ 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา อ่านข่าว : หนุ่มเมากร่างโชว์ปืน! รอง สวป.หนองขาม เข้าระงับเหตุ ถูกยิงตัดขั้วหัวใจดับ (คลิป)

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.พ. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่าตนได้รับรายงานจาก สภ.หนองขามว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา สภ.หนองขาม ได้รับแจ้งมีเหตุต้องสงสัยเป็นชาย มีอาวุธปืน บริเวณร้านค้า เลขที่ 207/275 ม.11 ตลาดต่อศักดิ์ ม.11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงได้แจ้งให้ทางสายตรวจรถจักรยานยนต์ และ ร้อยเวรป้อนกันปราบปรามเข้าไประงับเหตุ พร้อมชุดป้องกันปรามปรามพิเศษ สภ.หนองขาม

เมื่อไปถึงพบชายดังกล่าวมีอาการในลักษณะมึนเมา จึงได้แสดงตัวเป็นหน้าที่ตำรวจ และเข้าควบคุมตัว แต่ชายดังกล่าวได้ใช้กำลังชกต่อย ตำรวจนอกเครื่องแบบทั้งสองนาย เมื่อชายคนดังกล่าวสู้ไม่ได้ จึงใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่นายศุภสิทธิ์ หม่องเลี้ยง ซึ่งเป็นอาสาตำรวจ ที่บริเวณหน้าท้องบาดเจ็บสาหัส เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ ร.ต.อ.อิสรพงษ์เดินเข้าไประงับเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณด้านหลังใต้หัวไหล่ ทำให้ร.ต.อ.อิสรพงษ์ล้มลง ก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง อ่านข่าว : แฉเมายาด้วย! หนุ่มคลั่งโชว์กร่างฆ่า‘รตอ.’ ยิงอาสาเจ็บ ลูกน้องเศร้าเสียดายตำรวจดีๆ(คลิป)

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาม ได้ระดมกำลังปิดล้อม และเกลี่ยกล่อมให้ผู้ต้องหาวางอาวุธปืน จนผู้ต้องหายอมมอบตัวและอาวุธปืน 3 กระบอก ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายนิรุตต์ หรือหนึ่ง จิตมั่น อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหาเบื้องต้นพบมีสารเมทแอมเฟตามีน, เคตามีน อยู่ในร่างกาย และยังพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย 67 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น โดยจะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาตรวจหาสารเสพติดโดยละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง

เบื้องต้นผู้ต้องหามีความผิดฐาน “ฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ, พยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำการตามหน้าที่ฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วนฯและยิงปืนในที่สาธารณะ”

รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น เพราะถือว่าเป็นตำรวจน้ำดี ที่ตั้งใจทำงาน ต้องมาเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ จึงได้สั่งให้ดูแลสวัสดิการและช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตจะได้รับความชอบพิเศษ 5 ขั้น 4 ชั้นยศ เลื่อนจาก ร.ต.อ. เป็น พล.ต.ต. และญาติจะได้รับเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจและเงินบำเน็จตกทอดช่วยเหลือกว่า 1,900,000 บาท พร้อมกันนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะบรรจุทายาทของข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้ได้เข้ารับราชการตำรวจ 1 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน