โควิด : เชียงใหม่เปิดไทม์ไลน์ 2 ผู้ป่วยใหม่ เกี่ยวโยงวอร์มอัพ พบต้นตอของการระบาดในผับวอล์มอัพ มาจากผู้ติดเชื้อใน กทม. เข้ามาเที่ยวคืนวันที่ 31 ธ.ค.63

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 8 ม.ค.64 นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการการจังหวัดเชียงใหม่ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์โควิค-19 ประจำวันที่ 8 ม.ค.64

ดร.ทรงยศ กล่าวถึง กรณีพบผู้ป่วยโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่เพิ่ม 2 ราย ได้แก่ ผู้ป่วยโควิดรายที่ 58 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา อ.สันกำแพง อาชีพเป็นพนักงานของรัฐ ประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิดรายที่ 55, 56 ของจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มมีอาการไข้ ไอเล็กน้อยจมูกไม่ได้กลิ่น เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว

ส่วนผู้ป่วยโควิดรายที่ 59 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นชายไทย อายุ 42 ปี ภูมิลำเนา อ.เมืองเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว มีประวัติเดินทางไปยังสถานบันเทิงที่พบการระบาด ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.63 ไม่มีอาการใดๆ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งผู้ติดเชื้อทุกรายยังคงมีการเชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายก่อนหน้านี้ ที่ที่ประวัติเดินทางไปร้านวอร์มอัพ ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.63

นอกจากนี้ ทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้รับข้อมูลการพบผู้ป่วยโควิดใน กทม. ที่มีประวัติเดินทางมาร้านวอร์มอัพในคืนเดียวกันนี้ และเมื่อดูตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วย พบว่ามีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิดของ กทม. เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63 ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.63 ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นต้นเหตุของการระบาดในครั้งนี้

ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคยังคงดำเนินการค้นหาและติดตามผู้สัมผัสในกลุ่มอื่นๆ ต่อไป โดยผลการดำเนินงานตรวจหาโควิดในกลุ่มผู้สัมผัสของผู้ป่วยโควิดของเชียงใหม่ ที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งสิ้น 1,010 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 285 ราย และทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4–8 ม.ค.64 ได้มีการตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้ที่เดินทางไปในร้านวอร์มอัพไปแล้วทั้งสิ้น 830 ราย รอผล 63 ราย

จังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่ ตามวันเวลา เดียวกับผู้ป่วยโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ สังเกตอาการตนเอง จนครบ 14 วัน หากพบอาการผิดปกติ ไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หายใจลำบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน พร้อมบอกประวัติอย่างละเอียด เพื่อรับการตรวจ

ด้าน นายวีระพันธ์ ได้ฝากข้อห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนว่า นับตั้งแต่มีการติดเชื้อในสถานที่ต่างๆ และเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสอบสวนโรค ซึ่งปรากฎว่ามีผู้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก อาทิ พนักงานที่ทำงานในสถานที่ตามไทม์ไลน์ ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน เจ้าของหอพักไล่ออกจากหอพัก ทั้งที่เป็นผู้เสี่ยงไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อ ขอให้พี่น้องประชาชนเห็นใจ และให้การช่วยเหลือกัน รวมถึงขอให้บริโภคข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเป็นข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง อย่าหลงเชื่อหรือแชร์ข่าวปลอม และขณะนี้ ทางจังหวัดได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลการปล่อยข่าวปลอมเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน