กรมสรรพากร เว้นภาษี หนุนเอกชนบริจาคช่วยหาวัคซีนโควิด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชาชน อันจะนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศชาติ

วันที่ 5 พ.ค. 2564 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้ภาคเอกชน ร่วมบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่แสวงหากำไรและมีภารกิจในการบริหารจัดการให้ประเทศมีความมั่นคงด้านวัคซีนอย่างยั่งยืน

โดยมีหลักการดังนี้ 1.บุคคลธรรมดาที่บริจาคเงินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติสามารถนำมาหักเป็นค่าลดหย่อนได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคตามมาตรา 47 (7) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว

2.บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติสามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ ตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละสองของกำไรสุทธิ

ทั้งนี้ ผู้ที่บริจาคให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ตาม 1 และ 2 จะต้องบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ( e – Donation) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 และ 3. ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่บริจาคทรัพย์สินให้แก่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

“กรมสรรพากรหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรการภาษีข้างต้น จะช่วยจูงใจให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการวิจัย การพัฒนา การผลิต และการกระจายวัคซีนที่มีคุณภาพและมีปริมาณเพียงพอทั้งในสถานการณ์ปกติและในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชาชน อันจะนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ เวลานี้ ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจในการฟันฝ่าวิกฤติสถานการณ์โควิด-19 นี้ไปให้ได้ เพื่อคนไทยทุกคน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน