บช.น. แถลงผลการจับกุม กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด รายใหญ่ในจ.เพชรบูรณ์ หลังตามสืบสวนนานกว่า 2 ปี ก่อนจับได้ยกแก๊ง พร้อมของกลาง 2.1 ล้านเม็ด

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ก.พ. 2564 ที่บช.น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผบช.น. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. และชุดสืบสวน กก.สส.2 บก.สส.บช.น.

แถลงข่าวจับกุมนายธานินทร์ พึ่งแก้ว อายุ 41 ปี นายธวัชชัย พึ่งแก้ว อายุ 25 ปี ทั้งสองเป็นลุงกับหลาน และนายทองทับ จันทยอด อายุ 51 ปี ทั้งสามเป็นชาวจ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลางยาบ้า รวม 2.1 ล้านเม็ด รถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน บล8474 ฉะเชิงเทรา ใช้ขนยาเสพติด รถยนต์ บีเอ็มดับบลิว สีดำ ทะเบียน ษห6664 กรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่เป็นรถนำ

รถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน 1ฒฌ1441 กรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่เป็นรถนำ รถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ทะเบียน กน2560 จ.เพชรบูรณ์ อาวุธปืน ขนาด 9 มม. 1 กระบอก และสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม จับกุมได้บริเวณแยกคลองชล ใกล้เทศบาล ต.ห้วยป่าหวาย ถนน 3034 ต.ห้วยป่าหวาย อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

ต่อเนื่องที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 71 ม.1 อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ ถนนพิชัยรณรงค์สงคราม อ.เมือง จ.สระบุรี และบ้านเลขที่ 52/22 อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

สืบเนื่องจากตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่หลายคดีในเขตกรุงเทพฯ จึงขยายผลจนทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติตจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคอีสานมาส่งให้กับลูกค้าภาคกลางและกรุงเทพฯ โดยใช้รถยนต์หลายคัน ในการเคลื่อนย้ายยาเสพติดผ่านทางจ.หนองคาย จ.ขอนแก่น จ.ชัยภูมิ จ.เพชรบูรณ์ และจ.สระบุรี ลงสู่ภาคกลางและกรุงเทพฯ

กระทั่งวันที่ 30 ม.ค. ตำรวจพบความเคลื่อนไหวของรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ เคลื่อนตัวออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าจ.เพชรบูรณ์ ตำรวจเชื่อว่าจะไปรับยาเสพติด จึงสะกดรอยติดตามจนวันที่ 31 ม.ค. จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าว

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นการขยายผลจากการจับยาเสพติดในพื้นที่อ่อนนุช จากการรวบรวมพยานหลักฐานและติดตามมานานกว่า 2 ปี พบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่มี 4 คน ภูมิลำเนาเป็นคนจ.เพชรบูรณ์ นำยาบ้าเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านจ.เลย จำหน่ายให้กับรายย่อยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เคยทำลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ทำมาแล้วหลายปี เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และ แจ้งข้อหานายธานินทร์ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” “พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน