ตำรวจบุกจับอีก 3 ครูขอนแก่น ร่วมเครือข่าย “ดร.ภูผาภูมิ” ทุจริตโครงการคนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน หลักฐานมัดสมุดรายชื่อชาวบ้าน พร้อม เลขบัตรประชาชน ส่งให้ “ดร.ภูผาภูมิ” หัวโจก
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
จากกรณีตำรวจจับกุมตัว ดร.ภูผาภูมิ และ นางบุหงา หรือครูฝน ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดขอนแก่น หลังชาวบ้านแห่เข้าแจ้งความว่า เอาเงินมาแจก 200 บาท บอกว่าเป็นเงินช่วยจากรัฐบาลในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน คนที่ไม่ได้ไปเที่ยวจะได้คนละ 200 บาท แล้วถ่ายรูปบัตรประชาชนชาวบ้านไป จากนั้นปรากฎว่าถูกสวมสิทธิ์ทั้ง โครงการคนละครึ่ง และ เราเที่ยวด้วยกัน
- อ่าน ชื่อโผล่ใช้สิทธิ์”คนละครึ่ง-เราเที่ยวด้วยกัน”แจ้งจับครูลวงแจก200แลกชื่อ
- อ่าน รวบแล้ว ‘ดร.’หัวหน้าแก๊งหลอกชาวบ้าน สวมสิทธิ์คนละครึ่ง คุมตัวสอบเครียด
- อ่าน แฉหลักฐานเด็ดมัด ‘ดร.’หน.แก๊งโกงสวมสิทธิ์ ‘คนละครึ่ง-เที่ยวด้วยกัน’
ล่าสุดคดีนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ก.พ.2564 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.พุมิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองเรือ ชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ชุดสืบสวนภาค 4 และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันเข้าจับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือจ่ายขบวนการทุจริตโครงการคนละครึ่ง และ เราเที่ยวด้วยกัน เพิ่มเติมอีก 3 คน ประกอบด้วย นางวลาพร หรือครูอ้อ อายุ 39 ปี น.ส.ศิริพร หรือครูนิด อายุ 28 ปี และน.ส.พรรสวรรณ หรือครูพี้ อายุ 44 ปี ทั้งหมดมีบ้านอยู่ ต.ยางคำ อำ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
“จากการสืบสวนสอบสวนของคณะทำงานทราบว่า ปลายทางเลขบัตรประจำตัวประชาชนของชาวบ้านทั้งหมดถูกส่งไปยังดร.ภูผาภูมิ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลักในคดีนี้ ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้น เนื่องจากหลายหน่วยงานมีส่วนเกี่ยวข้อง ตำรวจจึงได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆทั้งหมดเพื่อรวบรวมสรุปมูลค่าความเสียหายทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ในส่วนของผู้เสียหายที่เป็นในส่วนของรัฐความคืบหน้าขณะนี้ คณะทำงานได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้รวดเร็วที่สุดและสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายหากมีส่วนเชื่อมโยงในการกระทำความผิดในคดีนี้”
ด้านพ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ กล่าวว่า ตำรวจแบ่งชุดกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในข้อหา ร่วมกันเอาไปเสียหรือยึดไว้ซึ่งบัตรหรือใบรับรองหรือใบแทนใบรับรองของผู้อื่น เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ,ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ พร้อมทำการตรวจยึดของกลางได้เป็นสมุดรายชื่อชาวบ้านที่นำบัตรประจำตัวประชาชนมารับเงิน 200 บาท ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเงินจากรัฐมาแจกเยียวยา รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ พร้อมซิมการ์ด คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค รวมไปถึงสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย บัตรเอทีเอ็มกรุงไทย
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ยอมรับสารภาพ ให้การประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้พนักงานสอบสวนจะเร่งสอบปากคำครูทั้ง 3 คนให้เสร็จ ก่อนควบคุมตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดชุมแพให้ทันภายในวันนี้ทันที เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดและเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้เพียง 48 ช.ม.เท่านั้น และวันนี้ร.ต.ดร.ภูผาภูมิ ผู้ต้องหาคนสำคัญได้ยื่นขอศาลประกันตัวพนักงานสอบสวนจะไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออายัดตัวไว้เพื่อดำเนินคดีในพื้นที่สภ.หนองเรือ ขณะที่ผู้เสียหายในพื้นที่นั้นยังคงมีมาแจ้งความดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
