ทลายเครือข่าย ขายยาทำแท้งเถื่อน ในจ.เชียงใหม่ หลังพบมีการโพสต์ขายออนไลน์ ตามสืบกว่า 1 ปี กระทั่งลุยค้น 10 จุด รวบ 7 ผู้ต้องหา

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 18 กพ 2564 พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายจับศาลอาญาที่ 318/2564 เข้าจับกุมน.ส.ไพลิน แซ่หว่อง อายุ 33 ปี

ในห้องพักภายคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งในอ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังมีหลักฐานว่าน.ส.ไพลิน กับพวกร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาตและยังมีการโฆษณาขายยาโดยทำให้เข้าใจว่าเป็นยาทำให้แท้งลูกผ่านช่องทางต่าง ๆ

จากการตรวจค้นภายในห้องพักหมายเลข 402 พบยาแผนปัจจุบันหลายยี่ห้อที่มีการแกะเม็ดยาออกจากแผงและแผงยาที่ยังไม่ได้แกะ รวม 47 แผง ซองซิปสำหรับบรรจุยา 700 ซอง ซองกันกระแทก 1,150 แผ่น กล่องสำหรับส่งพัสดุไปรษณีย์ 9 กล่อง ตราสัญลักษณ์ร้านค้า 3 ตรา จึงตรวจยึดเป็นของกลาง

จากการสอบสวนน.ส.ไพลิน รับสารภาพว่า สั่งซื้อยามาจากต่างประเทศ แผงละ 10 เม็ด ในราคาแผงละ 2,500 นำมาแกะแผงแบ่งขายเม็ดละ 500 บาท โดยใช้ช่องทางออนไลน์ขายทุกวัน เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อจะจ้างให้คนไปส่งพัสดุไปรษณีย์ให้กับลูกค้า

วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังกระจายกำลังออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่าย ตามหมายจับศาลอาญาในจ.เชียงใหม่ รวมทั้งหมด 6 จุด ในท้องที่ อ.เมือง และอ.หางดง จ.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายได้อีก 4 คน








Advertisement

คือนายทักษ์ดนัย ปัญญาละ อายุ 26 ปี น.ส.ศิรินภา คำบาง อายุ 34 ปี น.ส.คุณัญญา บานเย็นงาม อายุ 34 ปี และ นางธัญพร แซ่โค้ว อายุ 45 ปี พร้อมของกลางเป็นสำเนาใบเสร็จส่งพัสดุไปรษณีย์ 46 ฉบับ นอกจากนี้ยังขยายผลขนายผลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.สมุทรสาคร จ.กาญจนบุรี และจ.นนทบุรี จับกุมผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายได้อีก 2 คน

รายงานระบุว่าเครือข่ายลอบขายยาทำแท้งเถื่อนรายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ที่มีการลักลอบจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ มีลูกค้าสั่งซื้อหลายจังหวัดทั่วประเทศ มีน.ส.ไพลิน เป็นผู้สั่งซื้อยามาแบ่งขาย และว่าจ้างให้นายทักษ์ดนัยเป็นผู้ส่งสินค้า โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามพฤติกรรมมานานกว่า 1 ปี พบว่ามีลูกค้าสั่งซื่อจำนวนมากทุกวัน มีบางวันยอดขายสูงสุดถึง 5 หมื่นบาท

ขณะที่นายทักษ์ดนัย ซึ่งเป็นผู้ส่งอ้างว่าไม่ทราบว่าในกล่องพัสดุเป็นอะไร ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือมีพฤติกรรมเป็นแอดมินโฆษณาขายยาผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งเป็นเอเยนต์รับยาไปขายต่อ

เบื้องต้น แจ้งข้อหา “ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” , “ร่วมกันขายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” , “ร่วมกันโฆษณาขายยาโดยทำให้เข้าใจว่าเป็นยาทำให้แท้งลูกหรือยาขับระดูอย่างแรง”

“ร่วมกันโฆษณาขายยาทางวิทยุกระจายเสียง เครื่องขยายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ทางฉายภาพหรือภาพยนตร์หรือทางสิ่งพิมพ์ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนขยายผลไปถึงแหล่งที่มาของยาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน