ผบช.น. เผยกรณีกู้ภัย 2 มูลนิธิยิงกันกลางกรุง รู้ตัวมือยิง มั่นใจไม่นานได้ตัวแน่ ด้านรองผบช.น. เตรียมออกหมายจับ ลั่นไม่รอให้มามอบตัว
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูมีเรื่องทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงกับอาสาสมัครมูลนิธิเพชรเกษม สาขากรุงเทพ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 65 ที่ผ่านมาว่า
ทางพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้ดำเนินการตรวจสอบโดยได้มีการเรียกมูลนิธิทั้ง 2 แห่งมาหารือแล้วกรณีที่เกิดปัญหา ส่วนของการสืบสวนสอบสวนทางคดี ทางพล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.น.ดูแลงานกฎหมายและคดี ควบคุมดำเนินการดังกล่าวเพื่อกำหนดประเด็นการดำเนินการสอบสวน ทั้งนี้คาดว่าอีกไม่นานจะได้ตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย มาดำเนินคดี
- อ่าน ล่าตัว 2 มูลนิธิกู้ภัย เปิดศึกตีกัน-ยิงกลางเมือง ผู้บริหารจ่อเอาผิดเด็ดขาด
- อ่าน 2 มูลนิธิกู้ภัยดัง เปิดฉากซัดกันกลางเมือง จอดรถพยาบาล รัวกระสุนกว่า 30 นัด
- อ่าน จับมือสงบศึก กู้ภัย 2 มูลนิธิ หลังดวลปืนสนั่น ตร.จี้มือยิงทั้ง 2 ฝ่ายมอบตัว
ด้านพล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.น. กล่าวว่า หลังจากที่เมื่อวาน บก.น.2 ได้เป็นคนกลางเรียกประชุมเจรจาหารือกันกับตัวแทนของทั้งสองมูลนิธิ โดยกำชับให้นำตัวผู้กระทำผิดมามอบตัว หากไม่มาพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป เพราะรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว จะไม่รอให้มามอบตัวอย่างเดียว
ฉะนั้นถ้ามามอบตัวก่อนก็จะเป็นผลดีกว่าถูกออกหมายจับ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ 2 พื้นที่ ในส่วนของสน.ทุ่งสองห้อง จะเป็นคดีใช้อาวุธปืนและคดีทำร้ายร่างกาย มีผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 2 คน ส่วนของสน.โคกคราม จะเป็นคดีใช้อาวุธปืน มีผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 3 คน
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. กล่าวว่า ส่วนกรณีมูลนิธิยังไม่ได้รับใบอนุญาตต้องหยุดวิ่งเลยหรือไม่นั้น การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บไม่ใช่ความผิดตามกฎหมาย หากเป็นกรณีที่มีการใช้รถโดยไม่ถูกต้องก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นได้เชิญผู้บริหารเข้ามาหารือกำหนดพื้นที่ไม่ให้เกิดข้อขัดแย้ง รวมถึงการคัดเลือกบุคลากร และต้องตรวจสอบประวัติอาชญากรรม