ทำทั้งครอบครัว! รวบพ่อ-ลูก โจรหม้อแปลงไฟฟ้า หลังหลานชายถูกจับไปก่อน อ้างเรียนรู้ผ่านยูทูบ เลือกจุดปลอดคน ขายได้ลูกละหมื่น

วันที่ 9 พ.ย.2567 พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นายศักดิ์สิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี และ นายสมจิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสตูล ลงวันที่ 7 พ.ย.67 คดี ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป และทรัพย์นั้นมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดฯ รวมแล้ว 4 หมายจับ ได้บนถนนเพชรเกษม ขาเข้า กทม.กม.ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองสตูล เข้าจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ขณะก่อเหตุลักหม้อแปลงไฟฟ้า ริมถนนสายตันหยงโป ต.ตันหยงโป อ.เมือง ภายหลังการจับกุมนายเอรับสารภาพว่า ร่วมกับ นายศักดิ์สิทธิ์ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นพ่อ นายสมจิตร ผู้เป็นปู่ และ น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี แฟนสาวของนายเอ

โดยใช้รถจยย.พ่วงข้าง ขี่ตระเวนหาเสาไฟฟ้าซึ่งมีหม้อแปลงไฟติดตั้งอยู่ และอยู่บริเวณที่ห่างจากบ้านเรือนทั่วไป จนเหมาะต่อการลงมือ

นายเอ ให้การต่อว่า จากนั้นตนก็จะนำอุปกรณ์ที่เตรียมมาขึ้นไปถอดหม้อแปลงไฟฟ้า ส่วนนายศักดิ์สิทธิ์จะคอยรอรับอยู่ด้านล่าง มีนายสมจิตรและน.ส.น้ำช่วยกันดูต้นทางให้ หลังจากนั้นจะนำหม้อแปลงไปถอดแยกชิ้นส่วนนำส่งขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ละครั้งจะขายได้ประมาณ 8,000-10,000 บาท ต่อลูก

เงินที่ได้ก็จะนำมาแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว โดยนายเอยอมรับด้วยว่าก่อเหตุมาแล้วถึง 4 ครั้ง ได้รับเงินมาหลายหมื่นบาท พร้อมยอมรับด้วยว่าศึกษาวิธีถอดหม้อแปลงไฟฟ้าผ่านทาง Youtube ทั้งวิธีการขึ้นไปถอด และสร้างอุปกรณ์ที่ต้องใช้เอง

ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 3 ราย ที่ยังคงหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายศักดิ์สิทธิ์และนายสมจิตร กำลังเดินทางหลบหนีเข้ากรุงเทพ จึงวางกำลังทำการสกัดจับกุมตัวดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวส่งสภ.เมืองสตูล ดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน