คลังสั่งเกาะติดเศรษฐกิจโลกผันผวน-ตลาดหุ้นร่วง – มั่นใจมาตรการกระตุ้นระยะเร่งด่วนจะรับมือไหว พร้อมคาดหวังเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่า 1 แสนล้าน

คลังสั่งเกาะติดศก.โลกผันผวน – นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้หน่วยงานเศรษฐกิจติดตามสถานการณ์ความผันผวนเศรษฐกิจโลก ตลาดหุ้นไทย และการเกิดภาวะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว (อินเวิร์ต ยีลด์ เคิร์ฟ) เพื่อนำเข้าหารือในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรก วันที่ 16 ส.ค. 2562 โดยยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงมากมีผลกระทบจากเศรษฐกิจภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำคือการทำให้เศรษฐกิจในประเทศเข้มแข็ง ซึ่งมั่นใจว่าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนจะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวนได้

โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเน้นกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย และการลงทุน เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อประชาชนและนักลงทุนว่าประเทศไทยจะยังเดินหน้าไปได้แม้มีปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยจะเป็นมาตรการที่ผสมผสานทั้งการช่วยเหลือภาคการเกษตร โดยเฉพาะเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง รวมถึงการช่วยเหลือด้านการเพาะปลูก, การท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง, การกระตุ้นการลงทุนและเสริมสภาพคล่องให้กับ SMEs, และการกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเศรษฐกิจในต่างจังหวัด แต่อาจจะไม่ใช้มาตรการช็อปช่วยชาติเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งมาตรการที่จะออกมานั้น จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้านบาทได้

“เราต้องดูทุกภาคส่วน มาตรการจะมีความผสมผสานกัน ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบได้ดี มากกว่า 1 แสนล้านบาทแน่นอน ส่วนงบประมาณที่จะเอามาใช้นั้น จะมาจากทั้งงบประมาณกลาง และจาหน่วยงานที่มีอยู่ เช่น จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.”นายอุตตม กล่าว

ส่วนการพบปะกับคณะผู้แทนสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน (US-ASEAN Business Council) เกือบ 100 ราย นั้น รมว.คลัง ระบุว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงต้องการเข้ามาขยายการลงทุนในไทย ทั้งลงทุนภาคการผลิต และการลงทุนงานวิจัยและพัฒนาบุคคลกร เพราะนักลงทุนเหล่านี้มองว่า ไทยยังเป็นประเทศที่น่าลงทุน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย รวมถึงการบริหารงานของรัฐบาลด้วย โดยนักลงทุนกลุ่มนี้มีความเข้าใจการทำงานของรัฐบาลเป็นอย่างดี จึงไม่ได้มีการสอบถามถึงกรณีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ทั้งนี้ นักลงทุนสอบถามถึงการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของเราว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเราก็บอกไปว่าจะเน้นขับเคลื่อนการปฎิรูปเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างพื้นฐาน การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย ซึ่งก็จะช่วยยกระดับคุณภาพของประเทศได้ นักลงทุนก็เข้าใจ และสะท้อนว่ามีความเชื่อมั่นต่อการทำงานของเรา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน