คลังลั่นทุ่มงบลงทุน 20% ของงบประมาณ กระตุ้นเศรษฐกิจยาว 5 ปี ยืนยันต้องออกมาตรการกระตุ้นทั้งระยะสั้น-ระยะยาว สร้างความเชื่อมั่นช่วงวิกฤต

คลังลั่นทุ่มงบลงทุน 20% – นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะที่ไม่ดีนัก ซึ่งประเทศไทยคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่โดนผลกระทบ ดังนั้นรัฐบาลจึงทยอยออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ แม้จะเชื่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในระหว่างที่อะไรก็ยังมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น จึงทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องสร้างความแข็งแกร่งภายในประเทศไว้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันสำหรับอนาคต

“รัฐบาลก็มีมาตรการต่างๆ ออกมา ซึ่งสุดท้ายมันก็ต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่น ทำให้มีกำลังใจเพื่อให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ โดยเชื่อว่าปีหน้าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่เหตุการณ์โลกก็ยังมีความไม่แน่นอน ดังนั้นต้องทำตัวเองให้แข็งแกร่ง เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันไว้รองรับ”นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม ยังกล่าวถึงกรณีที่นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) มองว่านโยบายการแจกเงินเป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นไม่ก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และไม่สามารถก่อให้เกิดการลงทุนในภาคเอกชนได้นั้น มองว่า การดูแลเศรษฐกิจระยะสั้นยังมีความจำเป็น โดยรัฐบาลต้องการให้มีเม็ดเงินจากการใช้จ่ายและการบริโภคหมุนเวียนภายในประเทศ ซึ่งหากไม่มีการออกมาตรการดังกล่าวเศรษฐกิจก็อาจไม่เกิดการหมุนเวียน

ทั้งนี้ ในส่วนของการลงทุนเป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐบาล และรัฐบาลได้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยรัฐบาลชุดนี้ได้พยายามเร่งเดินหน้าและผลักดันโครงการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ควบคู่ไปกับการดูแลเศรษฐกิจในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกเป็นแบบนี้ รัฐบาลต้องการประคองเศรษฐกิจภายในประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ ส่วนเรื่องการลงทุนต้องทำแน่นอน ซึ่งอยู่ภายใต้แผนการคลังระยะปานกลาง 5 ปี (ปี 2564-2567) ที่ได้กำหนดว่าจะต้องมีการลงทุนไม่น้อยกว่า 20% ของงบประมาณ ซึ่งตามแผนจะลงทุนในทุกด้านที่สำคัญ ทั้งภาคอุตสาหกรรม การคมนาคม เทคโนโลยี และการลงทุนในเชิงสังคม

นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งได้มีการหารือร่วมกันระหว่างภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันจัดทำยุทธศาสตร์ในการพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ซึ่งที่ผ่านมาไทยถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูง ต่างขานรับมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ทั้งโครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่ ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายภายในโครงการและตามห้างสรรพสินค้าอย่างต่อเนื่อง ในส่วนโครงการบ้านดีมีดาวน์ ซึ่งกระทรวงการคลังช่วยสนับสนุนเงินดาวน์ จำนวน 50,000 บาท ให้ผู้ได้รับสิทธิ์ 100,000 รายนั้น ขณะนี้ได้เปิดลงทะเบียนรับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2562-31 มี.ค. 2563 เริ่มเวลา 8.00-18.00 น. โดย 2 วันที่ผ่านมามีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมรับสิทธิ์แล้ว จำนวน 58,103 ราย ด้านผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้จัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจ

“โครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่ และโครงการบ้านดีมีดาวน์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็น 2 ใน 10 ของขวัญปีใหม่ 2563 ที่รัฐบาลมอบให้พี่น้องประชาชน ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงดูดให้ประชาชนซื้อบ้านมากขึ้นและช่วยระบายสต๊อกคงค้างของที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่มีอยู่ประมาณ 35,000 ยูนิต ให้ลดลงตามเป้าหมายที่วางไว้ได้“ นายชาญกฤชกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน