นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงผลการประชุมร่วมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ วันที่ 31 มี.ค. ว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานไปทำแผนปรับลดงบประมาณตัวเองลง 10% เพื่อนำเงินไปช่วยรัฐบาลแก้ปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 ยืนยันจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนและการพัฒนาประเทศ เพราะหน่วยงานต่างๆ สามารถขอจัดสรรงบประมาณผูกพัน 2 ปี เพื่อทดแทนได้ ซึ่งที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้สุขภาพของพี่น้องประชาชนมาก่อนเรื่องอื่น โดยสัปดาห์หน้าทุกหน่วยงาน จะต้องไปหารือร่วมกับสำนักงานประมาณ กระทรวงการคลัง เพื่อทำแผนเรื่องการปรับลดงบประมาณของกระทรวงคมนาคมลง

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) และประธานกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ในส่วนกรมทางหลวงนั้นปีงบประมาณ 2563 ได้รับจัดสรร จำนวน 113,883 ล้านบาท ซึ่งก็พร้อมที่ปรับลดงบลง 10% หรือราว 10,000 ล้านบาท ตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อนำไปสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโควิด เบื้องต้นกรมทางหลวงจะไม่ตัดงบประมาณโครงการใหม่ ที่มีระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปี เพราะส่วนนี้ใช้งบประมาณไม่มาก แต่จะตัดงบผูกพันข้ามปีและงบค้างท่อ เพราะโครงการที่ใช้งบผูกพันบางส่วนก่อสร้างล่าช้ากว่าแผน

โดยในปีงบประมาณ 2563 ได้รับงบผูกพันจำนวน 4.2 หมื่นล้านบาท เพื่อก่อสร้างโครงการจำนวน 200 โครงการ และมีงบค้างท่อเหลือประมาณ 8,000 ล้านบาท รวมแล้วประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งหากพบว่า โครงการใดก่อสร้างล่าช้าและมีแนวโน้มไม่สามารถเบิกงบประมาณได้ทันเดือนก.ย. 2563 กรมทางหลวงก็จะตัดงบประมาณไปให้รัฐบาลใช้ป้องกันไวรัสโควิด-19 จากนั้นจะขอจัดสรรงบประมาณปีงบประมาณ 2564-2565 มาใช้ในแทน

ส่วนการปรับลดงบประมาณ จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงบางขุนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และเดินรถตลอดสาย ช่วงบางขุนนท์-มีนบุรี มูลค่า 1.42 แสนล้านบาท ซึ่งจะเปิดประมูลในช่วงกลางปีนี้ เนื่องจากใช้การลงทุนรูปแบบรัฐเอกชนร่วมลงทุน (PPP) ซึ่งเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนก่อน จากนั้นรัฐบาลจะจ่ายเงินอุดหนุนบางส่วนภายหลัง ดังนั้น จึงยังไม่ต้องใช้เม็ดเงินจากภาครัฐในเร็วๆ นี้

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. ได้รับงบประมาณไม่มากราวพันล้านบาท เพราะงบลงทุนส่วนใหญ่ก็จะใช้วิธีการกู้เงิน ดังนั้นต้องไปพิจารณา ในรายละเอียดก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของรฟท.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน