สนพ. คาดราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐ-ยุโรปผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง
สนพ. คาดราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น – นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรปมีสัญญาณการขยายตัวดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของทั้งสหรัฐและยุโรปอยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าเกิดการขยายตัวในภาคการผลิตและบริการ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และมีการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในวงกว้าง
โดยราคาน้ำมันโลกระหว่างวันที่ 19-25 เม.ย. 2564 ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 63.86 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.98 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และเวสต์เท็กซัส 62.16 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.23 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สอดคล้องกับเศรษฐกิจของยุโรปที่เริ่มฟื้นตัว เนื่องจากหลายประเทศได้คลายมาตรการล็อกดาวน์ และประเทศลิเบียได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงเหลือ 1 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากปัญหาด้านงบประมาณกับธนาคารกลางของประเทศ
แต่ทั้งนี้ ความต้องการใช้น้ำมันยังถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงความรุนแรงในอินเดีย และในญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียว เกียวโต โอซาก้า และเฮียวโงะ โดยบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงวันหยุดเทศกาล Golden week รับฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างวันที่ 25 เม.ย.-11 พ.ค. 2564
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันขอไทยแตกต่างกับประเทศเพื่อนบ้าน หากพิจารณาจากโครงสร้างราคาน้ำมันอ้างอิงนั้น จะประกอบด้วย ต้นทุนเนื้อน้ำมัน คือ ต้นทุนน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย ภาษีต่างๆ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศและบำรุงท้องถิ่น
กองทุนต่างๆ เช่น กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน เพื่อประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน และค่าการตลาด คือ ส่วนที่เป็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันทั้งระบบ ตั้งแต่ การจัดการคลังน้ำมัน การขนส่งน้ำมันมายังสถานีบริการ รวมถึงการให้บริการของสถานีบริการที่เติมน้ำมันแต่ละลิตรให้กับประชาชน
ขณะที่ ค่าเงินบาทของไทย แข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 0.09 บาท/เหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 31.4695 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.21 บาท/ลิตร น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.14 บาท/ลิตร
ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 25 เม.ย. 2564 กองทุนน้ำมันฯ มีสินทรัพย์รวม 56,843 ล้านบาท หนี้สินกองทุนน้ำมันฯ 35,420 ล้านบาท ฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ 21,423 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 33,426 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 12,003 ล้านบาท
