นายกฯ บินตรงเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ สนามบินเบตง พร้อมดันเป็นฮับโลจิสติกส์ชายแดนใต้

เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เบตง – เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ท่าอากาศยานเบตง ว่า การเปิดสนามบินเบตงอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ถือเป็นอีกวันสำคัญในชีวิตที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเบตง จ.ยะลา ซึ่งสนามบินเบตง ตกแต่งด้วยไม้ไผ่ ซึ่งสะท้อนเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เพราะว่าคำว่าเบตง เป็นภาษาถิ่นมลายูซึ่งแปลว่าไม้ไผ่ ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของอำเภอเบตง และเส้นทางสายนี้ ถือว่าเป็นเส้นทางการบินที่สวยที่สุดทางหนึ่งเพราะผ่านน้ำ ฟ้า ป่า และเขา เป็น Solft Power

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ รัฐบาลจะพยายามเร่งพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านคมนาคมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งสนามบินเบตงเป็นสนามบินลำดับที่ 29 ของประเทศไทยทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการแก่พี่น้องประชาชนทั้งในด้านการขนส่งและการเดินทางอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) การเป็นของภูมิภาคจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายมาอย่างต่อเนื่องในการที่จะสร้างระบบขนส่ง และโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานสากล

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ท่าอากาศยานเบตง เป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการบินสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างดี โดยเริ่มให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์แรก ด้วยสายการบินนกแอร์ เส้นทางกรุงเทพฯ-เบตง-กรุงเทพฯ ในวันที่ 14 มี.ค. 2565 ซึ่งเส้นทางการบินและการขึ้น – ลงของอากาศยานจะอยู่ในน่านฟ้าของประเทศไทยเท่านั้น นอกจากเส้นทางให้บริการภายในประเทศแล้ว ท่าอากาศยานเบตงยังมีความพร้อมที่จะมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Regional Hub) เส้นทางระหว่างประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ในอนาคตด้วย

ด้านายปริญญา แสงสุวรรณ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) กล่าวว่า การเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์สนามบินเบตงในครั้งนี้ถือเป็นความภูมิใจของกรม และกระทรวงคมนาคม ที่สามารถดำเนินการให้เกิดขึ้นจริงได้ โดยสนามบินนี้ถือเป็นสนามบินที่มีความพร้อมรองรับเครื่องบินที่มีขนาด 80 ที่นั่งได้ อาทิ ATR-Q 400 เป็นต้น

นายปริญญา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ คาดว่าในอนาคตจะมีการเพิ่มเที่ยวบิน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง สุวรรณภูมิ-เบตง และหาดใหญ่-เบตง จากเดิมที่มีเฉพาะเส้นทาง ดอนเมือง-เบตง โดยเส้นทาง หาดใหญ่-เบตง คาดว่าจะได้เห็นการเปิดให้บริการภายในปี 2565 นี้ ซึ่งถ้าทำได้จะส่งผลดีต่อพื้นที่เพราะห่างจากชายแดนมาเลเซียประมาณ 20 กิโลเมตร (กม.) โดยสามารถรองรับชาวมาเลเซีย โดยเฉพาะรัฐเคดะห์ และรัฐเปรัก ที่มีประชากรประมาณ 4.2 ล้านคน ซึ่งหากทำได้จริงอุตสาหกรรมการบินจะกลับมารับผู้โดยสารได้มากขึ้น รวมถึงในอนาคตก็กรมมีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการอีก 1 เส้นทาง คือ เบตง-มาเลเซีย แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภาครัฐเป็นผู้พิจารณาต่อไป

นายปริญญา กล่าวอีกว่า ส่วนสนามบินเบตงจะถึงจุดคุ้มทุนที่ไม่ต้องใช้เงินอุดหนุนจากภาครัฐได้เมื่อไหร่ นั้น ทางกรมประเมินว่าหลังจากนี้อีก 6 เดือน จะได้ความชัดเจนว่าสนามบินจะอยู่ได้หรือไม่ แต่กรมเชื่อว่าสนามบินจะไปต่อได้ เดี๋ยวกันสายการบิน ที่มาทำการบินที่เบตงก็เชื่อว่า การเปิดเส้นทางนี้จะทำให้ถึงจุดคุ้มทุนได้แน่นอนอย่างไรก็ตาม สนามบินเบตงสามารถรองรับผู้โดยสาร 800,000 คนต่อปี หรือชั่วโมงละ 300 คน

“สำหรับสายการบินที่มีความสนใจขอเปิดทำการบินในเส้นทางดังกล่าว ทางกรมมีพร้อมที่จะรับพิจารณา แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ด้วย ยืนยันว่าการเปิดสนามบินใหม่แห่งที่ 29 ของ ทย. เราทำเพื่อประชาชน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้สนามบินเบตงเป็นศูนย์กลางของโลจิสติกส์ให้ได้ ซึ่งตอนนี้สามเหลี่ยมเศรษฐกิจของชายแดนภาคใต้ ได้ถือกำเนิดแล้ว ซึ่งจะเห็นว่าโลจิสติกส์ของกระทรวงคมนาคม ที่ได้ให้นโยบายไว้ ต้องมีความเชื่อมโยง ถามทางถนนและขนส่งทางบก ที่มีการรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว”นายปริญญากล่าว

นายปริญญา กล่าวว่า นอกจากนี้ ทย. มีแผนที่จะดำเนินโครงการก่อสร้างขยายทางวิ่ง (รันเวย์) จาก 1,800 เมตร เป็น 2,500 เมตร ทางขับ ลานจอดเครื่องบิน และส่วนประกอบอื่นๆ วงเงินรวมประมาณ 1,871 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบและขออนุมัติโครงการ เพื่อเสนอจัดทำรายงาน การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปี 2565 นี้ หลังจากนั้นจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายใน 3 ปี หากดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ หรือขนาด 737-800 และขนาดเครื่องบิน A-320

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน