บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สรุปภาวะการซื้อขายในตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ (12-16 ต.ค. 2563) สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท เงินบาทอ่อนค่าลง โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ และเงินหยวน หลังธนาคารกลางจีนยกเลิกการกันสำรองของสถาบันการเงินเมื่อทำธุรกรรมฟอร์เวิร์ดสกุลเงินต่างประเทศสำหรับลูกค้า (จากเดิมที่ต้องกันสำรองที่ 20%) นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันจากสถานะขายสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดี เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบลงในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดรอติดตามปัจจัยทางการเมืองในประเทศ การเจรจามาตรการเยียวยาโควิด-19 ของสหรัฐ และสถานการณ์ในช่วงโค้งสุดท้ายใกล้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันศุกร์ (16 ต.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.16 เทียบกับระดับ 31.07 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (9 ต.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (19-23 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.00-31.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ข้อมูลการส่งออกของไทยเดือนก.ย. การดีเบตรอบสุดท้ายของคู่ชิงประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ และประเด็นข้อตกลง BREXIT ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค. การเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของเฟด นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนต.ค. ของสหรัฐ ยูโรโซน และญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/63 ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนก.ย.

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย หุ้นไทยปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,233.68 จุด ลดลง 2.64% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 49,287.72 ล้านบาท ลดลง 3.60% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 2.83% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 313.98 จุด หุ้นไทยขยับขึ้นเล็กน้อยช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและสถาบัน ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงในต่างประเทศ อาทิ สถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง การระงับการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ยังไร้ข้อสรุป การเจรจาข้อตกลง Brexit ไม่คืบหน้า ขณะที่ หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงมากสุดในสัปดาห์นี้ ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (19-23 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,220 และ 1,200 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,245 และ 1,255 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นการเมือง รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของบจ. ของไทย ตลอดจนสถานการณ์โควิด-19 ประเด็นการเมืองและการดีเบตของสหรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน และประเด็น BREXIT ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย. และดัชนี PMI Composite เดือนต.ค. (เบื้องต้น) ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 3/63 ของจีน และดัชนี PMI Composite เดือนต.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนและญี่ปุ่น


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน