‘โอบ’เท่-สวมบทตัวการ์ตูนปลื้มมีผลงานส่งเข้าชิงออสการ์ : ข่าวสดอาทิตย์ใส

‘โอบ’เท่-สวมบทตัวการ์ตูน – เป็นอีกหนึ่งหนุ่มนักแสดงที่น่าจับตามอง สำหรับ ‘โอบ’ โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์ ที่ตอนนี้งานการแสดงมีเข้ามาไม่ขาดสาย

ล่าสุดได้เล่นเป็นพระเอกซีรีส์เรื่อง “My Dear Warrior มหัศจรรย์รักข้ามกระดาษ” ทางช่อง True4U อำนวยการสร้างโดย ‘อนันดา เอเวอริงแฮม’ และ ‘เจี๊ยบ’ นภัสริญญ์ พรหมพิลา แห่งค่าย HALO PRODUCTIONS ประกบคู่นางเอกมากฝีมือ ‘ใบเฟิร์น’ พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์

◆ บทที่ได้รับใน “My Dear Warrior มหัศจรรย์รักข้ามกระดาษ” เป็นอย่างไร?

โอบ – “เป็น โฮชิ ครับ เป็นตัวการ์ตูนที่หลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนเข้ามาสู่โลกความจริง จนมาเจอผู้หญิงคนนึ่ง นั่นก็คือ สกาย นางเอกที่รับบทโดยใบเฟิร์น–พิมพ์ชนก นั่นเอง โดยเรามีความสามารถพิเศษได้ยินเสียงสัมผัสของกันและกัน ซึ่งคนที่จะได้ยินเสียงก็คือคนรัก”

◆ ได้ร่วมงานกับ ‘ใบเฟิร์น–พิมพ์ชนก’ เป็นยังไงบ้าง?

โอบ – “ดีมากครับ ได้มาเล่นคู่กับพี่ใบเฟิร์น เขาเก่งมากๆ ในเรื่องการแสดงใบเฟิร์นเขาขึ้นชื่ออยู่แล้ว เขาเป็นระดับที่มีฝีมือมากในประเทศไทย และการแสดงเราก็รับส่งกันได้ดีครับ เรื่องนี้โปรดักชั่นค่อนข้างใหญ่แล้ว เป็นแฟนตาซีด้วย ได้เล่นอะไรหลายๆ อย่าง ได้เจอโอกาสใหม่ๆ ดีมากเลยครับ”

◆ เราต้องทำการบ้านหนักขนาดไหน?

โอบ – “ของผมจะเป็นในส่วนของภาพการ์ตูนมากกว่าที่ต้องทำการบ้านหนัก และในส่วนที่เข้าคู่กับพี่ใบเฟิร์น เพราะในเรื่องเราอยู่ในโลกของความจริง เราจะต้องพัฒนาความเป็นมนุษย์ไปเรื่อยๆ ต้องเล่นเทคนิคซีจีเยอะมากพอสมควร รายละเอียดเยอะ”

“ซึ่งจุดที่ยากสำหรับผม ผมว่าเป็นฉากต่อสู้มากกว่า ก่อนหน้าที่จะเล่น ต้องไปเรียนเวิร์ก ช็อปการต่อสู้ ใส่ชุดขึ้นสะลิงก่อน เพราะเรื่องนี้ต้องขึ้นสะลิง ต้องฟันดาบ และใส่ชุด อย่างฉากซีนเปิดเรื่องต้องใช้เวลาถ่ายถึงสามวันสองคืน บางครั้งการควบคุมสะลิงค่อนข้างยาก ต้องใช้คนดึง และพอดึงไม่ดีก็จะมาไม่ตรงจุดที่กล้องตั้งเอาไว้ และหลังจากขึ้นสะลิงแล้ว ตัวเราจะค้างอยู่บนอากาศ พอเวลาทีมงานดึงนานๆ ขาผมก็จะชาไม่มีความรู้สึก เราเลยต้องขึ้นและลงเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ขาชา และก็มีปัญหาเวลาไปเข้าห้องน้ำต้องถอดชุดทุกอย่าง ก็เลยเสียเวลาค่อนข้างเยอะ เหมือนฉากแรกเปิดมาคือหนักสุดเลย”

◆ เรื่องนี้เป็นแฟนตาซี ต้องทำซีจีเยอะ?

โอบ – “ใช่ครับ ทางทีมงานเสียเวลาทำ ฉากโปรดักชั่นค่อนข้างนาน ทีมงานใส่ใจใน รายละเอียดเรื่องนี้มาก พอถ่ายเสร็จก็ต้อง มีการทำสี เพราะตัวละครของโอบเป็นตัวการ์ตูน เขาไม่อยากให้ตัวเราเป็นสีผิวธรรมดา ทีมงานอยากให้ตัวเราผิวเรืองแสงอยู่ตลอด เวลาในภาพของการ์ตูนซึ่งจะต้องใส่ใจใน รายละเอียดมาก ส่วนใบเฟิร์นก็เป็นคนปกติ”

◆ เราต้องเรียนรู้ตัวละครจากในเรื่อง ซึ่งเป็นตัวการ์ตูน มาฝึกเป็นคน ยากไหม?

โอบ – “ผมว่ามันเป็นการพัฒนาตัวละครมากกว่า คนเราเวลาออกมาจากท้องแม่ต้องมีคุณแม่คอยสอน เหมือนเป็นเด็กและค่อยๆ เป็นตามละดับไป แต่ในเรื่องคือเป็นคนที่มีอายุตกลงมาในโลกมนุษย์ คือตัวละครจะรู้เรื่องทุกอย่าง แต่แค่ไม่รู้ว่าต้องตัดสินใจทำยังไงในการใช้ชีวิต อย่างในตัวการ์ตูนจะมีบทบาทก็ต่อเมื่อมีนักเขียนเป็นคนเขียนอยากให้ตัวการ์ตูนไปทำอะไรก็ได้ตามที่คนเขียนสั่ง แต่ในเรื่องนี้เขาต้องตัดสินใจทำอะไรเองทุกอย่าง มีความรู้สึกสามารถใช้ชีวิตเป็นของตัวเองได้ เราก็ต้องเรียนรู้กันไป แต่ในเรื่องมันออกมาในในบทที่รับรู้ความรู้สึก จำทุกอย่างได้ มันก็เลยง่ายที่จะเรียนรู้และเข้าใจสิ่งๆ นั้นไปได้โดยเร็ว”

◆ เป็นครั้งแรกที่ร่วมงานกับอนันดา เอเวอริงแฮม ในฐานะผู้อำนวยการสร้างด้วย?

โอบ – “ใช่ครับ ด้วยความที่เขาเป็น นักแสดงก็จะมองในมุมของนักแสดง โปรดิวเซอร์ และคนเขียนบทด้วย มันเลยจะมีลูกเล่นอะไรบางอย่างที่จะสามารถใส่เติมลงไปได้ตลอดเวลา ถ่ายไปเยอะๆ ไว้ก่อน จะใช้ไม่ใช้ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง จะมีมุมเล็กๆ บางอย่างใส่ลงไปในฉากตลอด และพี่เขาก็ลงมาสอนเราด้วย”

◆ เห็นเขาชมเราด้วยว่าแสดงดี?

โอบ – “ก็ตั้งใจมากครับ อยากให้ออกมาดี คือเขาลงทุนเยอะ ผมก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วง ทุกงานผมจะตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ก็ฉายหลายอีพีแล้ว เรื่องจะเข้มข้นเรื่อยๆ มีทั้งฉาก โรแมนติก นางเอกสอนพระเอกในการใช้ชีวิต หลังๆ จะเกิดเหตุการณ์ทำให้ต้องออกไปต่างจังหวัด อันนี้ก็จะเป็นฉากการเดินทาง หลังจากนั้นก็จะเป็นดราม่า จะแบ่งๆ กันไป ดราม่าหนักพอสมควร ของผมไม่เท่าไหร่ แต่ของพี่เฟิร์นหนัก ต้องร้องไห้หนักมาก”

◆ เห็นว่าไปออกอากาศต่างประเทศด้วย?

โอบ – “ออนของ ‘อ้ายฉีอี๋’ ตอนนี้กระแสที่จีนดีมาก เพราะที่จีน ไม่ค่อยมีสไตล์แบบนี้ และยิ่งเป็น ของไทยด้วย เขาไม่ค่อยเห็นซีรีส์ไทยไปออกอากาศที่นั่นสักเท่าไหร่ ครั้งนี้ของเราไปแบบถูกกฎหมาย ออนแอร์ที่จีนตรงกับช่วงเวลาไทยเลย ก็อยากให้เขาได้ดูไปพร้อมกับเราเลย พวกเขาก็ชอบกัน ถือว่าได้แฟนคลับที่จีน เพิ่มมากขึ้นด้วย”

◆ คิดไหมว่าเราจะประสบความสำเร็จมาถึงจุดนี้?

โอบ – “จริงๆ แล้วแฟนคลับก็มีฐานอยู่แล้วแต่ละประเทศ ถือว่าดีครับ ทำให้มีแฟนคลับที่เหนียวแน่นขึ้น เพราะเราทำงานเราก็ไม่อยากให้ผลงานเราอยู่แค่ในประเทศไทย อยากให้คนอื่นๆ ได้เห็นผลงานเรา อยากให้เขาเข้ามาเรียนรู้ชีวิตเราว่าเราใช้ชีวิตแบบไหนด้วย”

◆ เห็นว่าภาพยนตร์ ‘แสงกระสือ’ ที่เราแสดง เป็นตัวแทนหนังประเทศไทย เข้ารับเลือกเพื่อพิจารณาเข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 92 ด้วย?

โอบ – “ครับ ได้เป็นตัวแทนหนังไทย เข้าชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 92 ผมงงมากเพราะเพิ่งรู้ไม่นานนี้เอง พี่โดม สิทธิศิริ ผู้กำกับฯส่งมาให้ดู พอเปิดเข้าไปดูก็ดีใจได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ไม่คิดว่าจะได้ไป ขนาดนี้ เป็นความยิ่งใหญ่มาก เป็นตัวแทนหนังไทยที่ได้เข้าไปชิง แค่เป็นตัวแทนประเทศ ก็ดีมากๆ แล้วครับ”

◆ เห็นว่าอนาคตมีร่วมงานกับ Netflix ด้วย?

โอบ – “ใช่ครับ เป็นซีรีส์ไทยเรื่องแรกเรื่อง ‘เคว้ง (The Stranded)’ ที่ร่วมงานกับ Netflix โดยผู้กำกับฯ เป็นคนไทย ทีมนักแสดงเป็นคนไทย เราก็ได้เป็นนักแสดงหลักในนั้น แต่จริงๆ ก็มีนักแสดงหลักหลายคน ด้วยเนื้อเรื่องเป็นเด็กนักเรียนที่อยู่บนเกาะ และเกาะถูกสึนามิ ขึ้นอยู่ว่าเราจะแสดงออกมายังไง อันนี้ก็เป็นของไทยออริจินอลที่ทางเน็ตฟลิกซ์ให้ทุนมาทำเป็นของไทย ถ่ายเสร็จเรียบร้อยเหลือออนแอร์อย่างเดียว น่าจะได้ออนแอร์ประมาณปลายๆ ปีนี้”

◆ เรียกว่าช่วงนี้งานรุมมาก?

โอบ – “ครับ ถือว่าโชคดีมากที่ได้บทแต่ละอย่างที่แตกต่างไม่ซ้ำกัน แต่ก็มีบทที่อยากลอง เล่นอยู่บ้าง ผมอยากเล่นบทคอมเมดี้ เพราะผมยังไม่เคยเล่นบทแบบนี้ คนดูหลายๆ คนอาจจะเห็นผมในบทที่ต้องเครียดดราม่าจนเบื่อแล้ว เวลาจะทำให้คนตลกแบบไม่ได้แสดงให้มันออกมาจากตัวเรามันยากนะ”

◆ อยากให้พูดถึงแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจเราคู่เราอยู่ตลอด?

โอบ – “ก็ฝากผลงานด้วยนะครับ ‘My Dear Warrior มหัศจรรย์รักข้ามกระดาษ’ ออนแอร์ทางช่อง True4U ทุกจันทร์–อังคาร และเป็นกำลังใจให้หนัง แสงกระสือที่เป็นตัวแทนประเทศได้รับคัดเลือกเข้าพิจารณาชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 92 และปลายปีนี้ Netflix ออริจินอลเรื่องแรก เคว้ง (The Stranded) ครับ”

จริงจังเรื่องความรัก–คบ‘มะปราง’ยังต้องปรับจูน

นอกจากจะลักกี้อินเกม มีงานรุมไม่ ขาดสายแล้ว นักแสดงหนุ่ม ‘โอบ–โอบนิธิ’ ยังลักกี้อินเลิฟ คบหากับแฟนสาว ‘มะปราง’ อลิสา ขุนแขวง มาได้ 2 ปีกว่า ความรักสุดแสนแฮปปี้ โดยเจ้าตัวเปิดใจว่า “สำหรับความรักตอนนี้ก็ปกติดีครับ คบกันมา 2 ปีกว่าๆ แล้ว”

แฟนคลับหลายๆ คนยกให้เราเป็นคู่รัก ไอดอล “ก็ดีใจนะครับ ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยก็มีคนรักและชื่นชมเรา ก็ดีกว่ามีคนไม่ชอบเรา”

อย่างคู่อื่นเขาก็ยังโดนดราม่า แต่คู่เราไม่ค่อยมี นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า “ผมว่ามันเป็นเรื่องของแต่ละคนมากกว่า เรื่องนี้มันพูดยาก อย่างแฟนคลับก็รักในตัวนักแสดง พวกเขาซัพพอร์ตเรา”

ตอนนี้ ‘มะปราง’ ก็มีละครเยอะ เรามีให้กำลังใจกันยังไงบ้าง โอบเผยว่า “ช่วงนี้เขาทำงานเยอะ เขาก็ทำหน้าที่เขาได้ดีอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ที่มาพูดคุยกันก็จะประมาณว่าเหนื่อยมากกว่า เราก็จะบอก ให้กำลังใจเขา ว่ามันก็ดีอยู่แล้ว บางคนเขายังไม่ได้มีโอกาสเท่าเราเลยนะ เขาก็จะบอกไม่ได้อะไรหรอก แค่อยากบ่นให้ฟัง อยากได้กำลังใจเฉยๆ เวลาฝ่ายไหนเหนื่อยก็จะให้กำลังใจกันและกันครับ”

ล่าสุดฝ่ายหญิงลงรูปโชว์ไหล่เราก็หวงแรงด้วย เจ้าตัวหัวเราะ “ก็จะมีไปคอมเมนต์ แต่คอมเมนต์เล่นๆ ครับ ไม่ได้อะไรขนาดนั้น”

เราวางแผนอนาคตความรักเรา ยังไง “จริงๆ แล้วผมเป็นคนจริงจังนะครับ หลายคนชอบมาถามผม ชอบโดนถามประจำว่า ในอนาคตจะทำยังไง ผมก็จะบอกว่าจริงๆ แล้วผมเป็นคนจริงจังเรื่องความรัก ชีวิตผม ผมยังรับผิดชอบอะไรไม่ได้ อย่างปัจจุบันนี้ ยังมีเรื่องต่างๆ ที่ผมต้องพึ่งพาคุณแม่ผม ให้คุณพ่อทำเรื่องต่างๆ ให้มันเป็นเรื่องที่ผมต้องปรับตัวมากกว่า เพราะถ้าวันหนึ่งผม ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว ผมจะต้องมีปัจจัยอะไรหลายๆ อย่าง อยากให้พร้อมก่อน ผมถึงจะต้องเป็นคนที่ดูแลเรื่อง พวกนี้ได้”

ถามถึงนิยามความรัก โอบกล่าวว่า“นิยามความรักของผม คือ อยู่ด้วยกันให้กำลังใจกันทุกวันนี้ก็โอเคแล้วครับ ทุกวันนี้ผมก็ต้องมีอะไรปรับจูนกันอีกเยอะ มันเป็นการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด เราถูกเลี้ยงกันมาในคนละรูปแบบกัน มันจะต้องมีเรื่องอะไรต้องเรียนรู้กันไปอีกเยอะ อย่างผมเห็นบางคนที่แต่งงานกันแล้วเขาก็ยังมีเรื่องที่ ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดครับ”

ชื่อเล่น – โอบ

ชื่อนามสกุล – โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์

วัน/เดือน/ปีเกิด – 2 สิงหาคม พ.ศ. 2537

บิดา/มารดา – สมชัย/ดวงพร วิวรรธนวรางค์

พี่น้อง – 3 คน โอบเป็นคนกลาง มีพี่สาวชื่ออาย น้องสาวชื่อไอซ์

การศึกษา – ระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวัดราชบพิธ จบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ชานนท์ พิทักษ์ตันสกุล