คุณพี่เจ้าขาดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์ ละครเบาสมอง ย้อนเวลานำพาให้นางเอกมาพบพระเอก ในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ห่วงเวลาอยู่ในสมัย รัชกาลที่3 บทประพันธ์โดย ฝันเอ้อระเหย ผลงานกำกับของ ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ นำแสดงโดยนักแสดงสาว โบว์-เมลดา สุศรี และ ภณ-ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์

ป้าแจ๋ว ยุทธนา

หลังจากที่ละครออกอากาศไปแล้วนั้น ก็เรียกเสียงนิยมชื่นชมจำนวนมาก และมีเรื่องหนึ่งที่สะดุดตาผู้ชม จนกลายมาเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ประจำสัปดาห์ นั่นก็คือเรื่องของจีวรลายดอกพิกุล

ป้าแจ๋ว ยุทธนา ผู้กำกับละครเรื่องดังกล่าว ได้โพสต์บทความหนึ่งลงในไอจีส่วนตัวว่า #คุณพี่เจ้าขาดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์ #จีวรลายดอก #อ่านเป็นความรู้ก่อนดูละคร #ผ้ากาสาวพัสตร์ แปลว่า ผ้าที่ย้อมด้วยน้ำฝาด หรือ #ผ้าไตร ที่คนไทยทั่วไปรู้จักกัน เป็นผ้าที่พระสงฆ์ใช้นุ่งห่มกายตามข้อกำหนดของพระพุทธศาสนา

ป้าแจ๋ว ยุทธนา

ประกอบด้วยผ้าจำนวน 3 ผืน ได้แก่ “จีวร” (อุตราสงค์) เป็นผ้าที่ใช้ห่มด้านนอก “สบง” (อันตรวาสก) ผ้าที่ใช้สำหรับนุ่งด้านล่าง และ “สังฆาฏิ” ผ้าสำหรับนุ่งซ้อนหรือพาดบ่า การนุ่งห่มผ้าไตรนี้เป็นข้อกำหนดที่พระพุทธเจ้าทรงประทานอนุญาตไว้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล และถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของพระสงฆ์

ซึ่งประเทศไทยได้รับรูปแบบการแต่งกายนี้เข้ามาพร้อมๆ กับพระพุทธศาสนาที่เข้ามาเผยแพร่ปัจจุบันพระสงฆ์ไทยยังคงใช้ผ้าไตรนุ่งห่มตามพระวินัยเช่นเดียวกัน แต่รูปแบบการครองผ้าจะเปลี่ยนไปบ้างตามแต่ละนิกาย

ป้าแจ๋ว ยุทธนา

ผ้าไตรสามผืน มีลักษณะเป็นผ้าเรียบ ไม่มีลาย ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าเป็นการสร้างตามรูปแบบของผ้าไตรที่พระสงฆ์ในสมัยโบราณใช้ จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ราชสำนักมีธรรมเนียมถวายผ้าจีวรที่มีลวดลายดอกไม้อย่างที่เรียกว่า “จีวรลายดอก” แด่พระเถระชั้นผู้ใหญ่

ดังปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อาทิ จดหมายเหตุบัญชีผ้าพระกฐินและผ้าไตร จ.ศ. 1187 (ตรงกับ พ.ศ. 2368) และภาพถ่ายพระสงฆ์ในช่วงนั้น กล่าวกันว่าการถวายจีวรลายดอก น่าจะเกิดขึ้นมาแต่สมัยพุทธกาลแล้ว โดยพระพุทธเจ้าทรงประทานอนุญาตเฉพาะลายดอกไม้ขนาดเล็ก ไม่กาววาว (สีสันไม่ฉูดฉาด ไม่แวววาว)

ป้าแจ๋ว ยุทธนา

จีวรลายดอกที่นิยมถวายกันในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์จึงทำจากผ้าที่นำเข้ามาจากแคว้นเบงกอล เป็นผ้าฝ้ายเนื้อบางละเอียด ทอลายดอกไม้ขนาดเล็กทั้งผืน เรียกว่า “ผ้าย่ำตะหนี่” (Jamdani) นำมาตัดเย็บและย้อมด้วยน้ำฝาดตามพระวินัย ด้วยเหตุนี้ ความนิยมในการสร้างพระพุทธรูปและพระสาวกบางกลุ่ม ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ ลงมา จึงได้ถอดแบบมาจากการนุ่งห่มของพระสงฆ์จริงๆ โดยครองจีวรลายดอกหลายรูปแบบ เช่น ลายดอกพิกุล ลายใบเทศ และลายพุ่มข้าวบิณฑ์

ป้าแจ๋ว ยุทธนา

แม้ว่าการถวายจีวรลายดอกแด่พระสงฆ์ จะลดลงในสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) จนหายไปในที่สุด ทว่ายังปรากฏการสร้างพระพุทธรูปหรือพระสาวกที่ครองจีวรลายดอกสืบต่อมา จนกลายเป็นอัตลักษณ์หนึ่งของศิลปกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ที่ไม่พบในงานศิลปกรรมสมัยอื่นของไทย #ข้อมูล ผกก เรียบเรียงจากเพจ กรมศิลปากร #ออกแบบผลิตผ้าจีวรลายดอก โดยดร.ผศ.สุรัตน์ จงดา Surat Jongda

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน