คอลัมน์ สดจากเยาวชน : เป็นอะไรก็ได้! บาร์บี้ยุคใหม่

คอลัมน์ สดจากเยาวชน

เด็กๆ กับการเล่นเป็นของคู่กัน ลักษณะการเล่นจะแตกต่างกันไปตามพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย

ในวัย 3 ขวบขึ้นไปการเล่นที่โดดเด่นคือ “การเล่นบทบาทสมมติ” ซึ่งเด็กต้องอาศัยจินตนาการเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ

จากการสำรวจคุณแม่ 7 ใน 10 ไม่เชื่อว่า “จินตนาการในการเล่นจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูก” ส่วนใหญ่เชื่อว่าการที่เด็กจะมีพัฒนาการได้ต้องมาจากการเรียนและการฝึกฝน

บริษัท แมทเทล เซาท์อีสต์ เอเชีย จำกัด ผลิตวิดีโอที่ปล่อยให้เด็กเล่นและมีจินตนาการประกอบ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการ และเพิ่มความมั่นใจในการแสดงออกของเด็กๆ ทั้งนี้ สิ่งที่เด็กหลงใหลและสนใจในวัยเด็กยังอาจส่งผลถึงความสำเร็จในอนาคต

การจำลองในเหตุการณ์นี้ นำเด็กๆ จากประเทศจีน อินเดีย ฝรั่ง รวมทั้ง “น้องเพนกวิน” เป็นตัวแทนเด็กไทย ร่วมทำการทดลองด้วย

จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ บ่งบอกถึงความน่าทึ่งของการเล่นที่มีผลต่อจินตนาการของเด็กว่า “การเล่นบทบาทสมมติ” ช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัส ช่วยให้เด็กสามารถเชื่อมโยงจินตนาการ ของเขาเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง ได้พัฒนาทักษะด้านการตัดสินใจ ภาษา สังคม คณิตศาสตร์ และความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมๆ กัน

มีการศึกษาพบว่า “เด็กที่เล่นบทบาทสมมติได้อย่างอิสระจะมีอารมณ์ดี เพราะในโลกแห่งจินตนาการ เขาจะเป็นคนเก่งที่สุด ดีที่สุด ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้เมื่อเขาอยากเป็น ดังนั้นเมื่อเขาได้จินตนาการก็จะมีความสุขทุกครั้ง เพราะสามารถเป็นอะไรก็ได้ตามที่เขาอยากเป็น อีกทั้งมีพัฒนาการทางภาษาดี เพราะระหว่างการเล่นเด็กจะได้พูดอย่างที่ใจคิด เปล่งเสียงต่างๆ ออกมาระหว่างการเล่น ไม่ว่าจะเป็นการพูดพึมพำกับตนเอง หรือสื่อสารกับผู้อื่นระหว่างการเล่นล้วนแล้วแต่ช่วยฝึกทักษะด้านภาษาทั้งสิ้น

การที่เด็กได้เล่นโดยใช้จินตนาการบ่อยๆ จะทำให้มีทักษะการคิดที่ดีและมีสมาธิดี เรียนรู้การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เด็กที่ชอบสมมติตัวเองว่าเป็นคนนั้นคนนี้หรือทำอาชีพต่างๆ ถือเป็นเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ และเมื่อโตขึ้นเขาจะค่อยๆ เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาต่างๆ อย่างสร้างสรรค์เช่นกัน และมีแรงบันดาลใจในการทำอาชีพ นั้นๆ ต่อไปในอนาคต”

ประเด็นนี้ถูกนำไปเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือคุณแม่ ได้เห็นว่าทำไมวิดีโอนี้ถึงได้สำคัญในการเปลี่ยนความคิดหรือทัศนคติการเล่นที่มีผลต่อจินตนาการของลูกๆ

การทดลองครั้งนี้ บริษัทนำมาเป็นโรลโมเดล โดยให้เด็กลองเล่นกับบาร์บี้อาชีพต่างๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งของเล่น เป็นเพื่อนผู้ต่อยอดจินตนาการ เพราะรู้ว่าจินตนาการคือจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจที่จะนำพาสู่จุดหมาย

บาร์บี้ ตุ๊กตาแสนโปรดของเด็กผู้หญิงปรับโฉมสู่ภาพลักษณ์ใหม่ ที่นอกจากจะมีหน้าตาและบุคลิกลักษณะที่หลากหลายใกล้เคียงกับ ผู้หญิงในยุคนี้เพื่อให้ดูใกล้ตัวเด็กแล้ว ยังมาพร้อมแนวคิด เป็นอะไรก็ได้ “You Can Be Anything”

พบว่าก่อนเล่นเด็กจะนึกไม่ออกว่าอาชีพต่างๆ เป็นอย่างไร เขาจะเล่นเป็นอาชีพต่างๆ ได้อย่างไร หลังจากเปิดโอกาสเขาได้เล่นกับบาร์บี้อาชีพตามที่เขาเลือกเด็กๆ มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สามารถพูด เล่าเรื่องที่เล่นกับบาร์บี้ได้อย่างฉะฉาน ออกท่าออกทางตามอาชีพตามจินตนาการได้อย่างสร้างสรรค์ แสดงให้เห็นถึงพลังของการเล่นว่ามีผลต่อพัฒนาการที่ดีของเด็กๆ

เพราะข้อดีที่เด็กจะได้รับจากการเล่นตามจินตนาการหรือบทบาทสมมติ ผู้ใหญ่จึงควรเปิดโอกาสให้เด็กได้เล่นบทบาทสมมติบ่อยๆ โดยจัดสิ่งแวดล้อม ตระเตรียมของเล่นต่างๆ ที่หลากหลาย ตามวัยของเด็กๆ ไว้ให้เด็กใช้ประกอบการเล่น เช่น ตุ๊กตา เสื้อผ้า เครื่องครัว ชุดเครื่องมือแพทย์ ฯลฯ พร้อมชวนเด็กพูดคุยถึงสิ่งที่เขาคิด เขาเล่น เช่น บาร์บี้คุณหมอตรวจใครมาบ้าง บาร์บี้เชฟทำอาหารอะไรอร่อย เพื่อฝึกการเล่าเรื่อง ฝึกภาษา และฝึกความคิดให้เด็ก

แฟนคลับบาร์บี้และบุคคลทั่วไปติดตามชมคลิปวิดีโอ พลังการเล่น ขณะเด็กเล่นกับบาร์บี้อาชีพต่างๆ ได้ที่เฟซบุ๊ก Barbie Besuper Thailand Fanpage