คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

น้าชาติ ปรชาชื่น [email protected]

มีข้อเขียนของ รศ.พญ.ณัฏฐา รัชตะนาวิน หัวหน้าหน่วยโรคผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี อธิบายให้เข้าใจ ง่ายๆ ว่า แสงแดดมีประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์ เป็นแหล่งของวิตามินดี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น โดยที่แคลเซียมจะทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้ตามปกติและเสริมสร้างกระดูกเพื่อการเจริญเติบโต

ผิวหนังคนเราสร้างวิตามินดีได้เมื่อได้รับแสงอัลตรา ไวโอเลตชนิดบี ซึ่งในการผลิตวิตามินดีนี้ร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้แสงแดดมาก

เพียงแค่ให้แสงแดดส่องบริเวณใบหน้า แขน ขา เป็นเวลา 10-15 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ตลอดทั้งปีก็เพียงพอแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้แสงแดดจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่แสงแดดก็ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพผิวได้เช่นกัน

นั่นคือทำให้เกิดความผิดปกติของสีผิว เช่น ฝ้า กระ ทำให้ผิวไหม้เกรียม ทำให้ภูมิคุ้มกันที่ผิวลดลง เกิดการแพ้แดด ทำให้ผิวมีริ้วรอยเหี่ยวย่นแก่ก่อนวัยและทำให้เกิดมะเร็งของผิวหนัง

นอกจากนี้ยังพบว่าโรคผิวหนังและโรคระบบอื่นๆ หลายโรคอาจกำเริบเมื่อถูกแสงแดด เช่น โรคลมพิษจากแสงแดด โรค เอสแอลอี ตาเป็นต้อ โรคติดเชื้อเริม ฯลฯ

ขณะเดียวกันยาหลายชนิด เช่น ยาลดความดันเลือด ยาปฏิชีวนะ ยาสเตียรอยด์ ยารักษาสิว และยาต้านมะเร็ง อาจทำให้ผิวหนังมีความไวต่อแสงแดดมากกว่าปกติ รวมทั้งขณะ ตั้งครรภ์ หรือเป็นโรคบางอย่าง เช่น ลูปัส

แสงแดดประกอบด้วยรังสีที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น มีชื่อเรียกว่ารังสีอัลตราไวโอเลต (ultraviolet) หรือรังสียูวี (UV) ซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้ว่าแสงยูวีแม้เพียงเล็กน้อยในยามแดดจัด ทำให้คอลลาเจน (เซลล์เนื้อเยื่อของผิวหนัง) เสื่อมสภาพได้

อนุมูลอิสระเป็นผลผลิตจากการที่ร่างกายต่อสู้กับสิ่งที่มาระคายเคือง เช่น แสงแดด ฝุ่น ควัน และมลพิษต่างๆ เป็นเวลานาน ซึ่งหากหลงเหลืออยู่ในผิวหนัง สารอนุมูลอิสระก็อาจทำลายเซลล์รอบๆ ตัว ทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้

และถึงแม้ว่าโรคมะเร็งผิวหนังจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่พบว่ามีความสัมพันธ์กับรังสียูวี คือผิวหนังถูกแสงแดดแผดเผาเป็นเวลานานนับสิบปี

จำไว้เสมอว่าแสงแดดสามารถทำร้ายผิวของเราได้ทุกฤดูกาลตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นแดดอ่อนหรือแดดจัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และความเข้มของรังสียูวีในแสงแดด

ในโลกทุกวันนี้ นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ผิวสดใสต้องร่วงโรยไปก่อนเวลาอันควรก็คือแสงแดดที่เราต้องเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

บางคนอายุแค่ 20 ปี แต่ดูสูงวัยเหมือนคุณป้า และส่วนใหญ่ร้อยละ 80-90 ของคนที่ดูแก่ก่อนวัย มักเป็นคนที่ต้องทำงานกลางแจ้ง ซึ่งจะแก่เร็วกว่าคนที่ทำงานอยู่ในร่มหรือในห้องปรับอากาศ

ทั้งนี้ รังสียูวีแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ รังสียูวีเอ (UVA) รังสียูวีบี (UVB) และรังสียูวีซี (UVC)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน