สตรีต-สปอร์ต แรงไม่ตก งานคราฟต์ก็มา

สตรีต-สปอร์ต – ฮอตจริงๆสำหรับแฟชั่นแนวสตรีตและสปอร์ต ที่อาศัยการมิกซ์แอนด์แมตช์ สะท้อนตัวตน มากกว่าสวมใส่ตามแบบกำหนดโดยดีไซเนอร์ ส่วนปี 2562 แฟชั่นแนวสตรีต และสปอร์ตยังอยู่หรือไม่ และมีอะไรแปลกใหม่กว่าเดิม มีความเห็นจาก 2 ดีไซเนอร์ชื่อดัง

สตรีต-สปอร์ต

พลพัฒน์ อัศวะประภา

พลพัฒน์ อัศวะประภา หรือ หมู ASAVA ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ Asava Group กล่าวว่า รอบหลาย 10 ปีแฟชั่นจะใช้คำว่า trickle down คือแฟชั่นจากผู้ออกแบบมาสู่ผู้บริโภค แต่ปัจจุบันเป็นแบบ trickle up คือการนำความต้องการจากผู้คนจริงๆแล้วค่อยนำไปเป็นแฟชั่น

สตรีต-สปอร์ต

ดังนั้น Street Style จึงมีอิทธิพลมากๆ แฟชั่นเป็น Mass มากขึ้น คนทั่วไปใส่ได้ไม่จำกัดอยู่เฉพาะคนที่มีชีวิตหรูหรา เช่น เสื้อลายทางหรือลายขวางที่คล้ายๆ กัน ก็จะมีให้เลือกตั้งแต่ แบรนด์กอมเดการ์ซง (COMME des GARCONS) ตัวละ 4,000- 5,000 บาท หรืออาจถึงตัวละหลายหมื่นบาท ตามตลาดนัดก็มีแบบนี้เช่นกัน

แฟชั่นสมัยนี้ไม่มีคำจำกัดความชัดเจนแบบสมัยก่อนที่มีสไตล์ฮิปปี้ ดิสโก้ สมัยนี้ไม่มีกระแสใหญ่แบบนั้นอีกแล้ว แต่จะมี 2 คำที่อยู่ในกระแสแฟชั่นปัจจุบัน คือ

สตรีต-สปอร์ต

1.สปอร์ต คือคนที่ต้องการชีวิตที่คล่องแคล่ว คล่องตัว คนที่ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายหรือกีฬา เพราะให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ

2.สตรีต ที่คนเริ่มมองหาสิ่งที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสะดวก และรวดเร็ว

แบรนด์ชั้นนำของโลกเปลี่ยนแปลงดีไซด์มากขึ้นเพราะกระแสโลกเปลี่ยนไป ทุกคนอยากเด็กลง เริ่มจากการที่คนเริ่มดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพ รักษารูปร่าง คนที่อายุ 50 ปีบางทีดูเด็กกว่าอายุจริงมาก เสื้อผ้าจึงเป็นการผสมผสานความเป็นวัยรุ่นเยอะ

อิทธิพลของสตรีตและสปอร์ตจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะทุกวันนี้เราต้องการเสื้อผ้าที่ใส่แล้วคล่องตัว ดูแลรักษาง่าย

Street Style จะยังคงอยู่อีกพักใหญ่ แบรนด์ชั้น นำต่างๆมีรองเท้าผ้าใบ เช่น หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) บาเลนเซียก้า (Balenciaga) ดิออร์ (Dior)

แต่วันหนึ่งก็จะหายไปคาดกระแสสินค้าคราฟต์หรืองานฝีมือ ที่มีละเอียด ต้องประดิดประดอยจะตามมาในไม่ช้า เพราะกระแสสปอร์ตหรือสตรีต เป็นงานที่ถูกผลิตออกมาในระบบอุตสาหกรรม หรือไม่ก็เริ่มรู้สึกว่าการซื้อกางเกงวอร์มราคาเป็นหมื่นๆสิ้นเปลือง ไม่คุ้มค่า

ส่วนอาซาว่ายังคงจุดยืนไม่ให้ความสำคัญกับกระแสหรือความหวือหวา แต่จะสะท้อนและบ่งบอกตัวตนของผู้หญิงที่เชื่อมั่นในตัวเอง รู้จักตัวเอง รู้ว่าใช้อะไร ทำอะไรแล้วมีความสุข ความเป็นผู้หญิงทุกวันนี้ไม่ได้ถูกนิยามด้วยอายุแต่ถูกนิยามด้วยรสนิยมและไลฟ์สไตล์

คอลเล็กชั่นสปริงซัมเมอร์ 2019 อาซาว่าจะใช้ผ้าไทย เช่น ผ้าไหมและผ้าขาวม้า จะผสมผสานงานทำมือมากขึ้น เพราะกระแสที่โลกแฟชั่นหมุนเวียนเปลี่ยนเร็วแบบนี้ ถึงจุดหนึ่งคนก็จะเริ่มมองหาความละเมียดละไมหรือสิ่งที่หาไม่ได้จาก Fast Fashion เราเชื่อว่างานทอมือหรือผ้าไทย จะสร้างเสน่ห์ให้กับสินค้าแบบหรูหราได้

แป้ง อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหารแบรนด์วิคธีร์รัฐ (Vickteerut) และดีไซเนอร์

สตรีต-สปอร์ต

อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์

แฟชั่นบ้านเราจึงแบ่งหลายอายุและกลุ่มเป้าหมาย สะเปะสะปะ เนื่องจากโลกดิจิตอล ประกอบกับคนมีคาแร็กตอร์ที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น การแต่งตัวจึงหลากหลาย

เห็นได้ชัดปีนี้และปีหน้ายังเป็นแนวสปอร์ต ซึ่งมีทั้งสปอร์ตหรูหราแบบลักซ์ชัวรี่ หรือสปอร์ตจ๋าไปเลย และเนื่อง จากแนวสปอร์ตเข้ามาเป็นตัวหลักของวงการแฟชั่น ผู้หญิงจึงมิกช์แอนด์แมตช์เก่งขึ้น เป็นการนำชิ้นที่มีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นแจ๊คเก็ต หรือเบลเซอร์แจ๊กเกตทับเดรสใส่รองเท้าผ้าใบ

ปีหน้าสปอร์ตโททัลลุกส์ยังมาแรงอยู่ แต่พลิ้วมากขึ้น หรือสปอร์ตกับผ้าลูกไม้ไปเลย หรือสปอร์ตกับกระโปรงพลีตสวยๆ สักตัว

สตรีต-สปอร์ต

แต่ลุกส์สปอร์ตไม่ได้เหมาะกับทุกคน มองว่าผู้หญิงทั่วไปยังชอบใส่ ส้นสูง อาจใส่แจ๊กเกตหลวมๆ กับส้นสูงปีหน้าจะเห็นกางเกงสามส่วนเยอะขึ้น ผู้หญิงจะเป็นลุกส์เท่มากขึ้น มีตัวตนมากขึ้น มั่นใจมากขึ้น รู้ว่าตัวเองใส่อะไรแล้วสวย

จากเมื่อก่อนจะเป็นโททัลลุกส์ ซื้อแบรนด์นี้ต้องแต่งแบบนี้หรือแต่งตามลุกส์บุ๊ก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ซึ่งเป็นงานหนักของบรรดาดีไซเนอร์จาก เมื่อก่อนออกแบบมาลุกส์ไหนลูกค้าก็ซื้อเลย แต่วันนี้ลูกค้าคิดว่าใส่เสื้อแบรนด์นี้กับกระโปรง กางเกงของอีกแบรนด์หนึ่งก็ได้

แต่ที่จะเข้ามาคือเรื่องของวัสดุที่หลากหลาย โดยเป็นวัสดุจากธรรมชาติมากขึ้นนำมาใส่กับสิ่งที่ดูไม่ธรรมชาติ เช่น ผ้าที่ดูเป็นพลาสติก ทำให้ ลุกส์โดดเด่นแต่ฟอร์มยังเป็นสปอร์ตอยู่

สีที่ใช้ ปีหน้าสีสดจะมา ฟ้าเทอร์คอยส์ ม่วงสีแหลมๆ จะนำสีเหล่านี้มาจับคู่ใส่กับสีธรรมชาติแนวเอิร์ธโทนซึ่งดูตรงข้ามกัน แนวถักก็มาทำให้ลุกส์ที่แต่งดูมีคุณค่ามากขึ้น

สตรีต-สปอร์ต

และส่วนตัวยังมองว่าผู้หญิงใส่ส้นสูงอย่างไรก็ดูสวยและสง่างามกว่า

แนวมินิมอล (Minimal) ก็จะกลับมา แต่เป็นมินิมอลที่โมเดิร์น ขึ้น ไม่เรียบเหมือนเดิม ไม่ใช่การใส่เชิ้ตกับกางเกงธรรมดา อาจเป็นเชิ้ตที่มีเลเยอร์ ขณะเดียวกันจะเห็นสีส้มพีซในลุกส์นี้ เป็นส้มตัดขาว ส้มตัดดำ ซึ่งปรากฏในหลายแบรนด์

อีกสไตล์ที่น่าจะกลับมาด้วยคือยุค 80 และ 90 เสื้อโอเวอร์ไซซ์ เช่นใส่แจ๊กเกตตัวใหญ่ กับกางเกงรัดรูป หรือเลกกิ้ง แต่ภาพรวมยังออกแนวสตรีท หรือสปอร์ตอยู่

คอลเล็กชั่นใหม่ของวิคธีร์รัฐเป็นแนวมินิมอลโมเดิร์น อีกทางเลือกของผู้หญิง ครูซ 2019 ภายใต้ชื่อ Neo Rhapsody เป็นโมเดิร์นโบฮีเมียน พูดถึง โบฮีเมียนคนจะนึก ถึงลายพรินต์ เยอะๆ แต่เราตัดทอนให้ดูเรียบ ทันสมัยขึ้น

สตรีต-สปอร์ต

ใส่ในชีวิตประจำวันมากขึ้น สวมใส่ง่ายได้หลายโอกาส มิกช์แอนด์แมตช์ได้ง่าย ใส่ไปทะล หรืองานกลางคืนก็ได้สีเอิร์ทโทน เขียวอ่อน เหลืองอ่อน ตัดกับ สีเบสิกของวิคธีร์รัฐ ขาว ดำ เบจ

เพิ่มความพลิ้วไหว เป็นมินิมอล ดูเป็นผู้หญิง มีความอ่อนหวาน ขนนก ผ้าดูเบาๆ มีจริตมากขึ้น ฟรุ้งฟริ้งมากขึ้น ผู้หญิงก็คือ ผู้หญิงไม่ได้อยากเท่ตลอดเวลาคงความโดดเด่นเหมือนเดิมคือใช้ผ้าสวมใส่สบาย ไม่ยับ ใส่ได้เช้าจรดเย็น เช่นแจ๊กเกตสองเลเยอร์ เหมือนใส่ 2 ชิ้นแต่จริงๆใส่ชิ้นเดียว ใส่คู่กางเกงตัวหลวม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน