เสน่ห์ปลายจวัก รสมือเด็กไทย
คอลัมน์ สดจากเยาวชน
เสน่ห์ปลายจวัก รสมือเด็กไทย – เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนไทยที่รักการทำอาหารมีโอกาสพัฒนาทักษะการปรุงอาหารและงานฝีมือสู่ระดับสากล
วิทยาลัยเทคโนโลยีครัววันดี โดย ดร.วิชุดา ณ สงขลา ศรียาภัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีครัววันดี ร่วมกับสถานศึกษา ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา จัดกิจกรรม “การแข่งขันปรุงอาหารและแกะสลักระดับนานาชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2562” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
การแข่งขันแบ่งเป็น 6 ประเภท ดังนี้ 1.อาหารไทยชาววัง 2.อาหารอาเซียนร่วมสมัย 3.อาหารริมทางพร้อมบรรจุภัณฑ์ 4.แกะสลักผักผลไม้แบบฟรีสไตล์ 5.อาหารตะวันออกผสมผสานอาหารตะวันตกแบบฟรีสไตล์ และ 6.การแข่งขันทำซูชิ มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันรวม 132 คน จากกว่า 20 สถาบันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้รับเกียรติจากเชฟระดับโลกและเชฟแนวหน้าของไทยมาร่วมเป็นสักขีพยานและตัดสิน
นพวิชญ์และจานเด็ดในสำรับ
รุ่นจูเนียร์ ระดับเยาวชน มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา อายุ 13-18 ปี นายนพวิชญ์ แก้วเกตุ (กริช) อายุ 16 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีครัววันดี เจ้าของถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรางวัลชนะเลิศ (เหรียญทอง) Top Scores จากการแข่งขันประเภทอาหารอาเซียนร่วมสมัย เปิดเผยว่า
“ผมเลือกนำข้าวหมกอินเดีย กุ้งทอดซอสผัดเปรี้ยวหวาน เนื้อย่างกับแกงเผ็ดลิ้นจี่ และผัดผักมาร่วมแข่งขัน สูตรอาหารเหล่านี้ศึกษามาจากหลายแหล่งข้อมูลและนำมาจัดวางรูปร่างหน้าตาที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น อาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้ด้วยตนเอง ในอนาคตจะนำไปปรับปรุงและเรียนรู้เรื่องอาหารให้มากขึ้น และจะเป็นเชฟที่มีความสามารถ ให้ได้ครับ”
สุพศินเลือกทำซูชิ
นายสุพศิน สุระวัฒนาพงศ์ (ชุ้ง) อายุ 16 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีครัววันดี รางวัลชนะเลิศ (เหรียญทองแดง) จากการแข่งขันประเภทซูชิ เผยว่า “เมนูที่ผมทำมีซูชิแซลมอน สโมกแซลมอนโรล อะโวคาโดมากิ ซูชิมะเขือม่วงซอสมิโซะ ซูชิไข่หอยเม่น และซูชิหอยเชลล์ซอสเมนไตโกะ ผมเลือกแข่งซูชิเพราะชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่น เยาวชนไทยมีฝีมือมีความสามารถก้าวไปสู่สายตาชาวโลก ได้แน่นอนครับ”
ด้าน น.ส.ตัสนีม บุญประเสริฐ (นีม) อายุ 17 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีครัววันดี รางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขันประเภทอาหารไทยชาววัง เล่าว่า
ตัสนีมปรุงเนื้อเค็มต้มกะทิ
“แรงบันดาลใจในการแข่งทำอาหารชาววังครั้งนี้มาจากการอยากลองสิ่งใหม่ๆ จึงเลือกทำเนื้อเค็มต้มกะทิกับข้าวหุงใบเตย ส่วนประกอบมีเนื้อแดดเดียว หอมเเดง พริกขี้หนู ใบมะกรูดฉีก หางกะทิ หัวกะทิ เริ่มจากการย่างเนื้อ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ตั้งกระทะใส่หางกะทิ รอเดือด ใส่เนื้อและหอมแดง คนให้เข้ากัน ใส่พริก ใบมะกรูด เเละหัวกะทิ เคี่ยวให้ข้น ปิดไฟ พร้อมรับประทานกับข้าวหุงใบเตย นำมาจัดวางเป็นสำรับในรูปแบบอาหารชาววัง”
รุ่น Professional ระดับอาชีวศึกษาชั้นสูงและมหาวิทยาลัย อายุ 19-25 ปี นายสิวานันท์ ศรีทัน (ทีเจ) อายุ 19 ปี คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ผู้คว้า 3 รางวัล ในรายการแกะสลักผักและผลไม้ ระดับอุดมศึกษา ได้แก่ 1.รางวัลเหรียญทอง The Winner Awards ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2.รางวัลเหรียญทองลำดับที่ 1 (ชนะเลิศ) Gold Medal และ 3.รางวัลอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมดีเด่น เปิดเผยว่า
ผลงานแกะสลัก
“งานฝีมือแกะสลักที่ร่วมแข่งครั้งนี้แกะสลักผักผลไม้นานาชนิด ทั้งมะละกอ ฟักทอง แตงโม แคนตาลูป หัวไชเท้า พริก เป็นต้น ลวดลายที่ใช้มาจากการศึกษาลวดลายไทยรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลายรักเร่ ลายผีเสื้อ ฯลฯ นำมาผสานกับลายเส้นแบบตะวันตก และลายที่คิดค้นขึ้นเอง ทั้งหมดผมศึกษาจากอินเตอร์เน็ต รวมถึงองค์ประกอบการจัดวางที่นำลวดลายไทยของเครื่องเบญจรงค์มาประดับตกแต่งให้ดูกลมกลืนกัน รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลใหญ่ครั้งแรกในชีวิต ภาคภูมิใจและรู้สึกดีที่เราเลือกให้ความสำคัญในงานแกะสลัก เพราะช่วยฝึกสมาธิและอนุรักษ์ความเป็นไทย”
ปิดท้ายที่ น.ส.ธันยา ทองถนอม (มาย) อายุ 21 ปี วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา รางวัลชนะเลิศ (เหรียญเงิน) จากการแข่งขันประเภทอาหารริมทางพร้อมบรรจุภัณฑ์ เปิดเผยว่า อยากทำให้อาหารที่ใครๆ ก็รู้จักอย่างผัดไทย รสชาติออกมาคงเดิมตามแบบฉบับไทยแท้ คือผัดไทยโบราณที่มีน้ำปรุงรสแค่น้ำตาล น้ำปลา และน้ำมะขาม เทคนิคของมายคือใส่เส้นจันท์ดิบลงไป แล้วตามด้วยน้ำเปล่าเล็กน้อย เรียกว่าการซัดน้ำ ผัดจนเส้นนุ่ม ก่อนใส่เครื่องประกอบต่างๆ เคล็ดลับอีกอย่างคือเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี อย่างน้ำตาลมะพร้าวแท้ น้ำมะขามเปียกที่คั้นเอง กุ้งสด และถั่วลิสงที่คั่วเอง ทำให้รสชาติที่ออกมาหอมอร่อยและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
เชฟระดับโลกร่วมตัดสิน
“เยาวชนไทยในปัจจุบันพร้อมก้าวไปสู่ตลาดโลกอย่างเต็มที่และเป็นที่ต้องการของตลาดโลกโดยเฉพาะในด้านอาหาร ตอนนี้มายได้รับการคัดเลือกให้ไปฝึกประสบการณ์ที่ประเทศเยอรมนี 1 ปีด้วยค่ะ” มายเล่าทิ้งท้าย
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
