“เสถียร จันทิมาธร”

การสนทนาระหว่างซุนกวนกับโลซกครั้งนี้สำคัญต่อยุทธศาสตร์ทางการทหาร ทางการเมืองเป็นอย่างสูง

ขอเริ่มจากสำนวน เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ก่อน

ซุนกวนจึงว่า “ท่านบอกฉะนี้ยังจะจริงหรือ”

ขงเบ้งจึงว่า “ข้าพเจ้าบอกแก่ท่านทั้งนี้จะได้เท็จหามิได้ แลเมื่อโจโฉแรกได้เมือง ซุนจิ๋ว หุนจิ๋ว นั้นได้ทหารไว้ 20 หมื่น ครั้นมารบอ้วนเสี้ยวได้เมืองกิจิ๋วก็ได้ทหารเชลย อีก 60 หมื่น กลับมาอยู่เมืองฮูโต๋ยังเกลี้ยกล่อมได้ทหารอีก 40 หมื่น แล้วยกมาตีเมืองเกงจิ๋วได้ทหารอีก 30 หมื่นเข้ากันเป็นทหาร 150 หมื่น แลข้าพเจ้าบอกแต่ 100 หมื่นเศษนี้ก็เพื่อจะเอาน้ำใจชาวเมืองกังตั๋ง ครั้นจะว่ามากนักกลัวทหารทั้งปวงจะเสียน้ำใจ”

โลซกยืนอยู่ใกล้ได้ยินขงเบ้งบอกดังนั้นก็แลดูตา ขงเบ้งก็แกล้งเมินเสียทำเป็นไม่เห็น

สำนวน วรรณไว พัธโนทัย ระบุว่า ฝ่ายโลซกอยู่เคียงข้างขงเบ้งได้ฟังขงเบ้งเจรจาดังนั้นใบหน้าถอดสี

จ้องหน้าขงเบ้งอย่างมีความหมาย ขงเบ้งแสร้งเมินเสียทำเป็นไม่เห็น

สำนวน พญ.กัลยา สุพันธุ์วณิช ระบุว่า หลู่ซู่อยู่ข้างๆ ได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนจ้องมองขงหมิง ขงหมิงแกล้งทำเป็นไม่เห็น

สะท้อนว่าถ้อย “กำชับ” ของโลซก ขงเบ้งไม่ “ปฏิบัติตาม”

ยืนยันว่าขงเบ้งก็มี “วาระ” อันเป็นของตนเอง ยืนยันว่าขงเบ้งกำลังเดินตาม “หมาก” ซึ่งตนกำหนดวางเอาไว้อย่างมั่นแน่ว

นั่นก็คือ แนวทาง “ข้าจะยั่วให้เขาโมโห”

หากติดตามทางด้านซุนกวนจะเห็นได้ว่าซุนกวนยังคงแน่วแน่ในเป้าหมายและความอยากรู้ของตนอย่างไม่แปรเปลี่ยน

ซุนกวนจึงถามว่า “ทหารโจโฉที่มีฝีมือเป็นเอกนั้นจะมากสักเท่าใด”

ขงเบ้งจึงบอกว่า “มีอยู่ประมาณ 2,000”

ซุนกวนจึงว่า “บัดนี้ โจโฉเที่ยวปราบปรามมาจนได้เมืองเกงจิ๋วแล้วยังจะคิดกำเริบทำการต่อไปอีกหรือ”

ขงเบ้งจึงบอกว่า “อันโจโฉนี้ที่จะไม่คิดอ่านทำการต่อไปนั้นท่านอย่าสงสัยเลย บัดนี้ข้าพเจ้ารู้ว่าโจโฉได้ตระ เตรียมทัพบก ทัพเรือไว้ได้พร้อมแล้ว เห็นจะยกมาตี เมืองกังตั๋งเป็นมั่นคง”

ซุนกวนจึงว่า “ถ้าโจโฉยกทัพมาดังนั้นเราจะรบดีหรือว่า อย่ารบดี ขอปัญญาท่านช่วยผ่อนปรน ให้ข้าพเจ้าแจ้งหน่อยหนึ่ง”

ขงเบ้งจึงว่า “อันถาม ทั้งนี้ก็ชอบใจว่านับถือข้าพเจ้าอยู่ ครั้นจะบอกท่านโดยปัญญาคิดเห็นนั้นกลัวท่านจะมิเชื่อถือกระทำตามข้าพเจ้า”

คำของขงเบ้งต่อไปนี้สำคัญอย่างยิ่งยวด

ในอดีตกาล เมื่อครั้งบ้านเมืองเป็นจลาจลอลหม่านใหญ่นั้นบิดาของท่านคุมทหาร กังตั๋ง เล่าปี่คุมทหารตอนใต้แม่น้ำฮั่น เข้าชิงความเป็นใหญ่ในใต้ฟ้ากับโจโฉ

มาบัดนี้โจโฉขจัดความยากลำบากอันใหญ่หลวงเสียได้จึงอยู่ในฐานะอันดีขึ้น

เมื่อเร็วๆ นี้ได้เขมือบเกงจิ๋วได้อีกแผ่อำนาจไปทั่วท้องสมุทร ได้คนดีมาช่วยมากมายจนแทบไม่มีแผ่นดินที่จะต้องใช้อาวุธ แล้วแม้กระทั่งเล่าปี่ยังต้องแตกหนีมาอยู่นี่ ขอท่านจง ประมาณกำลังดูเองเถิด หากท่านคิดว่าสามารถจะใช้กำลังทหารแคว้นง่อและแคว้นอวดเข้าต่อสู้ต้านทานโจโฉได้ก็จงเร่งเตรียมการโดยเร็วที่สุด

หากท่านเห็นว่าสู้ไม่ได้แน่ทำไมท่านจึงไม่ทำตามคำแนะนำของที่ปรึกษาของท่านให้ถอดเกราะทิ้งทวนเสีย ผินหน้าไปทางทิศเหนือแล้วเข้าไปกระทำคำนับโจโฉเล่า

ซึ่งท่านคิดจะไปสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ ขณะเดียวกัน ก็เกรงว่าจะได้รับความอัปยศอดสูแล้วเลยไม่อาจจะตัดสินตกลงใจใดๆ

ในยามเช่นนี้ มิทันนานจะมีภัยพิบัติมาถึงตัวท่านอย่างแน่นอน

สำนวน เจ้าพระยาพระคลัง(หน) ระบุว่า “ท่านยังหาตกลงข้างไหนไม่ แม้ท่านมิตรึกตรองคิดอ่านให้ตกลงข้างไหน แต่จะรวนเรอยู่ฉะนี้ ดีร้ายนานไปข้างหน้า ภัยก็จะมาถึงตัวหาทันรู้ไม่”

ท่วงทำนองการพูดของขงเบ้ง เป็นท่วงทำนองยั่วยุอย่างเด่นชัด ตีเข้าเป้าตรงกลางหว่างดวงใจ หว่างความคิดของซุนกวนอย่างไม่ยั้ง

เป็นการดำเนินตามแผน เป็นการดำเนินตาม “วาระ”

หลังจากพิเคราะห์ลักษณะของซุนกวนผ่าน “โหงวเฮ้ง” มีลักษณะเข้มข้น เป็นคนมีบุญ แต่ว่าน้ำใจจะดื้อดึง

“อันจะเจรจาสุภาพเห็นจะมิได้ ชอบแต่เจรจายุ”

หากติดตามต่อไปก็จะได้คำตอบว่า สมตามเป้าหมายของขงเบ้งหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน