“เสถียร จันทิมาธร”

คล้ายกับว่าการสร้าง “ศาลาเจ็ดดาว” และสามารถ “เรียกลม เรียกฝน” ได้เป็นความสามารถเฉพาะตัวของขงเบ้ง แต่ “หลี่เฉวียนจิน” ได้เสนอคำถามขึ้นมาว่า

ขงเบ้งเรียกลมบูรพาเป็นเรื่องแต่งขึ้นทั้งหมดหรือ

ศึกเซ็กเพ็กเกิดปลายปีรัชศกเจี้ยนอาน ปีที่ 13 คือวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ.208 จนถึงวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.209 เป็นช่วงฤดูหนาว ตามความรับรู้ของคนจีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนจีนภาคเหนือช่วงนี้จะไม่มีลมตะวันออกอย่างแน่นอน

พงศาวดารสามก๊กจี่ บทประวัติจิวยี่ บันทึกไว้ว่า

“ซุนกวนส่งจิวยี่ เทียเภาและคนอื่นๆ รวมกำลังกับเล่าปี่บุกขึ้นไปโจมตีโจโฉปะทะกันที่เซ็กเพ็ก ขณะนั้นทหารโจโฉป่วยพอประมือจึงแตกพ่ายถอยหนีไปฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซี”

เผยซงจือ ทำคำอธิบายเสริมว่า

“ศึกเซ็กเพ็กนั้นเป็นเรื่องของดวง แท้จริงแล้วเกิดโรคระบาดทำให้ (ทัพโจโฉ) เสียความเข้มแข็ง ทั้งมีลมอุ่นมาจากทิศใต้ช่วยให้ใช้ไฟ (เผาทัพ) ได้ เป็นเพราะฟ้าบันดาลหาใช่การของมนุษย์ไม่”

ข้อความนี้บอกให้ทราบว่า ขณะที่ศึกเซ็กเพ็กดำเนินไปนั้น โดยเฉพาะช่วงที่ ซุนกวนส่งจิวยี่ เทียเภา อุยกาย (หวงไก้) ไปโจมตีทัพโจโฉนั้นมีลมใต้พัดมาแน่นอน แต่ลมนี้มิใช่ขงเบ้งเรียกมา เพราะขงเบ้งมิได้มีฤทธิ์เดชเรียกลมได้

คำอธิบายของ “หลี่เฉวียนจิน” คือ

ในเขตมณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นมณฑลเกงจิ๋วในยุคสามก๊ก ฤดูหนาวมีลมตะวันออกเฉียงใต้มิใช่เรื่องที่เห็นได้ยาก ทั้งนี้เพราะอากาศในยุคนั้นและลักษณะพิเศษแห่งภูมิประเทศของชายฝั่งแม่น้ำแยงซีเป็นปัจจัยกำหนด

ขณะเดียวกัน ก็มิใช่ว่าต้องเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นฝ่ายกังตั๋งจึงจะเผา ทัพเรือโจโฉได้

เพราะในยุคสามก๊กเทคนิคการต่อเรือของกังตั๋งก้าวหน้าที่สุด เว่ยเวินนำกองเรือเป็นทูตไปไต้หวันนั้นเป็นผลงานใหญ่ของกังตั๋ง

อีกทั้งในยุคสามก๊กมีเทคนิคการปรับเอียงใบเรือแล้ว

ดังนั้น ขอเพียงมีลมใต้ ไม่ว่าจะเป็นตะวันตกเฉียงใต้หรือตะวันออกเฉียงใต้ ก็ล้วนช่วยให้เรือรบของกังตั๋งแล่นไปข้างหน้าได้

ขณะเดียวกัน จีนโบราณมีเทพแห่งลม และประเพณีเรียกลมมาช้านาน

ในหมู่ชาวจีนและชน ชาติส่วนน้อยบางกลุ่ม มีประเพณีใช้พ่อมดทำหน้าที่แทนเทพแห่งลม ในนิยายตั้งแต่ราชวงศ์ซ้องและหยวนเป็นต้นมาได้เขียนพรรณนาเรื่องนักพรตเต๋าเรียกลมฝน ขงเบ้งเรียกลมตะวันออกคงเกิดจากความเชื่อและประเพณี พื้นบ้านที่สืบทอดกันมา

สืบทอดกันมากระทั่งหลอกวนจงนำมาสอดสวมได้อย่างเหมาะเจาะ

ขณะเดียวกัน หากมองจากมุมของ “เลี่ยวเจี่ย” โจโฉคำนึงว่าข้าศึกจะใช้วิธีโจมตีด้วยไฟเช่นกันแต่เขามีความเชื่อว่าฤดูหนาวจะมีลมตะวันตกเฉียงเหนือ มิได้คาดคิดว่าอาจจะมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดมาได้เหมือนกัน

ฤดูหนาวมักจะมีลมตะวันตกเฉียงเหนือ นี่เป็นกฎทั่วไปแห่งการเปลี่ยนแปลงทางอากาศ

แต่ในฤดูหนาวเช่นเดียวกัน ก็อาจจะมีลมตะวันออกเฉียงใต้เกิดขึ้นได้แม้จะน้อยครั้งก็ตาม มิใช่ว่าจะไม่เกิดเสียเลย

ขงเบ้งตั้งศาลาเจ็ดดาวขึ้นเรียกลมตะวันออกเขาทำได้แยบยล

ทั้งนี้ มิใช่ว่าขงเบ้งมีความสามารถเรียกลมเรียกฝนได้จริงๆ เพียงแต่ว่าเขามีความรู้ด้านลมฟ้าอากาศ และศาลาเจ็ดดาวของเขาอาจจะเป็นหออุตุนิยมที่ใช้คำนวณการเปลี่ยนแปลงของลมก็เป็นได้

วิถีดำเนินของ “ลม” จึงเป็นไปตามลักษณะแน่นอนอันต้องเกิดขึ้น เป็นไปตามฤดูกาลและภูมิอากาศของแต่ละประเทศ กระนั้น ภายในลักษณะแน่นอนของดินฟ้าอากาศก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดปรากฏการณ์นอกเหนือความคาดหมาย

บังเอิญที่ขงเบ้งยึดกุมปรากฏการณ์นอกเหนือความคาดหมายนี้ได้

ผลของสงครามเซ็กเพ็กเด่นชัดว่าฝ่ายของซุนกวน เล่าปี่ กำชัยเหนือฝ่ายของ โจโฉ ต้องถอนตัวออกไปจากเกงจิ๋ว ถอนตัวออกไปจากเซ็กเพ็ก

สถานการณ์หลังสงครามจึงน่าสนใจเป็นอย่างมาก

หลี่อันซือสรุปว่า ซุนกวนแม้จะชนะศึกแต่กลับต้องให้เล่าปี่ยืมเกงจิ๋วซึ่งมีอาณาเขตใหญ่กว้าง จนแล้วจนรอดเล่าปี่ก็ไม่ยอมคืน คาราคาซังตั้งแต่ยุคสงครามเซ็กเพ็ก ยืดเยื้อกระทั่งถึงยุคของลิบองสามารถตีชิงกลับคืนมาได้

กรณีเล่าปี่ยืมเกงจิ๋วนี้เองที่ทำให้โลซกถูกโจมตีว่าอ่อนด้อยทางปัญญา และถือว่าเป็นความผิดพลาดเต็มๆ ของโลซก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน