‘ประวิตร’ หนุน 22 หน่วยงาน MOU พัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ประชาชน ใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อความอยู่ดีกินดี ในพื้นที่ คทช.

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ร่วมกับ 21 หน่วยงาน แสดงเจตจำนงในการผนึกกำลังกันบูรณาการพัฒนาพื้นที่ คทช. โดยการสนับสนุนจัดทำโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ 22 หน่วยงานที่จะร่วมลงนามประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ ได้แก่ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกลุ่มหน่วยงานพัฒนา อาทิ การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการดำเนินการร่วมกัน ให้เกิดการอนุญาตและดำเนินการที่รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะด้านการพัฒนา เส้นทางคมนาคมขนส่ง การพัฒนาแหล่งน้ำ และระบบไฟฟ้า ที่จะช่วยให้ประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดินมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างยั่งยืน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ในพื้นที่ คทช. ในวันนี้ การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ในลักษณะแปลงรวม โดยมิให้กรรมสิทธิ์แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ เป็นกลุ่มหรือชุมชน เป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการขาดที่ดินทำกินโดยให้พี่น้องประชาชน ผู้ยากไร้ ได้มีสิทธิทำกิน และอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ป้องกันการเปลี่ยนมือ และการเข้ามาครอบครองของนายทุน เกษตรกรมีที่ดินทำกินอย่างยั่งยืน และตกทอดไปถึงลูกหลานได้ พร้อมได้เน้นย้ำให้หน่วยงานรัฐ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไฟฟ้า ประปา เส้นทางคมนาคม และแหล่งน้ำในการอุปโภคบริโภคต่าง ๆ เพื่อให้สามารถลงหลักปักฐานต่อไปในระยะยาวได้ รวมทั้ง ให้มีการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่และต่อยอดไปสู่การจัดหาตลาด รวมถึง ช่องทางการกระจายผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถมีรายได้อย่างเพียงพอและมั่นคง มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ในช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง มาตรการ การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน ครั้งที่ 2/2565 โดยมีเรื่องที่ประชุมพิจารณาที่สำคัญ จำนวน 3 เรื่อง ประกอบด้วย ร่างหลักเกณฑ์การจำแนกประเภทที่ดินตามผลการจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน และการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร ซึ่งให้กรมป่าไม้ดำเนินการกำหนดพื้นที่เป้าหมาย รวมถึงแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566 – 2570)








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน