คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง

ราม วัชรประดิษฐ์

“ในปีพ.ศ.2452 ได้มีการจัดทดสอบวิทยาคมและพลังจิตของพระเกจิ อาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษจากสำนักต่างๆ ทั่วประเทศ ณ บริเวณวัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม มีพระเกจิเข้าร่วมประมาณร้อยกว่ารูป งานนี้เรียกได้ว่า “พิธีชุมนุมพระเกจิชื่อดังทั่วแดนสยาม” ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ มีสมเด็จพระสังฆราชฯ (เข) วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ผลปรากฏว่า 10 สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ ผู้มีความเข้มขลังในวิทยาคมและพลังจิตสูงสุดแห่งสยาม ยุค 2452

ประกอบด้วย หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพฯ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม หลวงพ่อทอง วัดวรนาถบรรพต (เขากบ) จ.นครสวรรค์ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน (วัดบางเหี้ย) จ.สมุทรปราการ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี และหลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ จ.ชุมพร”

หลวงพ่อทอง วัดวรนาถบรรพต (เขากบ) จ.นครสวรรค์ อีก 1 ใน 10 สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ พระเถระผู้เฒ่าที่เป็นที่เคารพศรัทธาอย่างยิ่งของชาวเมืองนครสวรรค์และใกล้เคียง ประวัติความเป็นมาของท่านนั้นไม่ค่อยมีผู้ใดทราบนัก เท่าที่ฟังจากคำบอกเล่าของพระเกจิและลูกศิษย์ใกล้ชิดพอจะได้ ความว่า

ท่านเป็นชาวทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์ รุ่นราวคราวเดียวกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน และ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

หลวงพ่อทองได้รับถวายที่ดินจากตากบและยายเขียด ต่อมาชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างกุฏิเล็กๆ ก่อนสร้างอุโบสถและศาลาขึ้น เพื่อชาวบ้านได้ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา

ต่อมาเมื่อตากบและยายเขียดถึงแก่กรรม หลวงพ่อจึงกำหนดที่ดินทั้งหมดเป็นที่ดินของวัด และตั้งชื่อวัดนี้ว่า “วัดเขากบ” ตามชื่อเจ้าของที่ดิน หลังจากการฌาปนกิจสองตายายแล้ว ท่านได้ให้ช่างปั้นรูปจำลองตากบและยายเขียดไว้ที่หน้าอุโบสถ เพื่อเป็นที่ระลึก ปรากฏอยู่กระทั่งทุกวันนี้

หลวงพ่อทองมีความเพียรอย่างแรงกล้า ลงมือทำงานและบูรณะวัดเขากบด้วยตัวท่านเอง โดยใช้เวลาบูรณะพระเจดีย์ซึ่งยอดหักนานถึง 10 ปี และทำโบสถ์อยู่ 5 ปี ทั้งยังบูรณะวิหารพระนอน กำแพงวิหาร ร้านบาตร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผู้ร่ำลือถึงกิตติศัพท์ของท่านมากมาย อาทิ เรื่องท่านตกจากยอดเจดีย์แล้วไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่รอยแมวข่วน หรือการบิณฑบาตที่ใครๆ ก็ตามไม่ทัน เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงความเข้มขลังในวิทยาอาคมหลายแขนงวิชา

หลวงพ่อทองพัฒนาวัดเขากบจนเจริญรุ่งเรือง และจำพรรษาอยู่ตลอดอายุขัยจนมรณภาพในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2484 สิริอายุเกือบ 80 ปี ยังความโศกเศร้ามาสู่ชาวนครสวรรค์และบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ร่วมใจกันหล่อ “รูปเหมือนเท่าองค์จริง” ของท่านไว้ในวิหาร ทุกวันนี้สาธุชนทั้งใกล้และไกลยังคงแวะเวียนมากราบสักการะขอพรอยู่เป็นประจำ

ด้วยความที่หลวงพ่อทองเป็นพระสมถะ รักสันโดษ เคร่งในวัตรปฏิบัติ จึงไม่ชอบสร้างวัตถุมงคล ไม่ชอบถ่ายรูป เท่าที่ทราบในสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่จะมีเพียง “ลูกอมและการรดน้ำมนต์” อันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนักเป็นหลัก แม้แต่รูปถ่ายท่านก็ไม่ยอมให้ใครถ่าย มีคนมาแอบถ่ายก็ไม่ติด จนลูกศิษย์ต้องขอร้องเพื่อขอเก็บไว้เป็นที่ระลึกท่านจึงอนุญาต ซึ่งจะมีเพียงภาพเดียวและครั้งเดียวเท่านั้น คือ ภาพที่ท่านกำลังนั่งบนธรรมาสน์ กำลังถือใบลานเทศน์อยู่

ส่วนวัตถุมงคลที่ทันท่านน่าจะมีไม่กี่อย่างซึ่งล้วนหายากทั้งสิ้น โดยเฉพาะ “เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก” ที่เรียกกันว่า “เหรียญหลวงพ่อทอง รุ่นหลังเงา”

เป็นเหรียญปั๊มเนื้อทองแดง รูปไข่เล็ก ห่วงเชื่อม ด้านหน้าและด้านหลังยกขอบเป็นเส้นลวดนูน 2 ชั้น ชั้นในมีขนาดเล็กมาก ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อทองครึ่งองค์ ห่มจีวร พาดสังฆาฏิ และรัดประคดอกแบบ “ห่มเต็ม” มีอักษรภาษาไทยจารึกว่า “หลวงพ่อ วัดกบ” ส่วนด้านหลัง ตรงกลางประดิษฐานรูปพระเจดีย์องค์ใหญ่ วัดเขากบ กลางองค์เจดีย์เป็นยันต์ “ตัวเฑาะว์ขัดสมาธิขึ้น” ยอดเป็น “อุณาโลม”

จุดสังเกตสำคัญคือ พื้นเหรียญด้านหลังจะมีรูปหลวงพ่อทองแกะเป็นลายเส้นบางๆ เห็นเป็นเงาจางๆ อันเป็นที่มาของชื่อรุ่นว่า “หลังเงา” ครับผม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน