ระหว่างนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยุคพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กำลังอยู่ในช่วงทำบัญชีโยกย้ายตำรวจระดับรองผู้การลงไปถึงสารวัตร หรือระดับพ.ต.อ.ลงไปถึงพ.ต.ต. ซึ่งเป็นวาระแต่งตั้งประจำปี หลังจากการย้ายนายพลเพิ่งผ่านพ้นไป
แต่ระดับนายพลที่เพิ่งจบสิ้นไปนั้น เอาเข้าจริงๆ ยังไม่จบ
เพราะมีกรณีพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผบ.ตร. ย้ายไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติดหรือป.ป.ส. จากตำรวจโอนย้ายไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม
ทำให้ผู้ช่วยผบ.ตร.ว่าง 1 ที่
อีกทั้งยังมีที่จ่อจะย้ายออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกราย
โดยเตรียมขยับพล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. ไปดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นคือ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือสมช.
แต่ยังต้องรอตรวจสอบประเด็นข้อกฎหมายก่อน ถ้าไม่ติดขัดอะไร รองผบ.ตร.คงขยับไปเป็นเลขาธิการสมช.แน่นอน ในเร็วๆ นี้
ด้วยมีความเหมาะสมด้านคุณสมบัติ
เพียงแต่ยังไม่สะเด็ดน้ำ ต้องรอพิจารณาปมประเด็นกฎหมาย คาดว่าจะชัดเจนแน่นอนภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้
ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อก ต้นเดือนธันวาคม พล.ต.อ.รอย คงได้เลื่อนขึ้นไปคุมงานสมช.
หากเป็นไปตามนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติคงต้องแต่งตั้งนายพลอีกรอบ ทดแทน 2 เก้าอี้ที่ว่าง!
แทนรองผบ.ตร. 1 และผู้ช่วยผบ.ตร.อีก 1
หมายถึงการตั้งนายพลต่อเนื่องอีก 2 แท่ง
เพียงแต่คนที่จะเลื่อนขึ้นเป็นรองผบ.ตร. และผู้ช่วยผบ.ตร. มีกฎเกณฑ์ชัดเจนคือ ตามลำดับอาวุโสเป๊ะๆ
ดังนั้นพล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผบ.ตร.อาวุโสอันดับ 1 จึงจ่อขึ้นรองผบ.ตร.คนใหม่ตามคิว
เส้นทางรับราชการที่เติบโตในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนโดยตลอด
ประกอบกับล่าสุด เป็นผู้รับผิดชอบการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัย ในวันที่ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศ
จึงทำให้พล.ต.ท.ประจวบ เป็น “ว่าที่รองผบ.ตร.” ที่ได้รับการจับตามอง โดยอายุราชการยังถึงปี 2568 จะกลายเป็น “ว่าที่ผบ.ตร.” หรือไม่
ขณะเดียวกัน เมื่อจะต้องตั้งนายพลทดแทน 2 ชุด โดยอีกชุดเพื่อทดแทนพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ด้วย จะส่งผลลงไปถึงระดับผู้บัญชาการ
แต่ทั้งหลายทั้งปวงยังต้องรอดูความชัดเจนในข้อกฎหมายปลายเดือนนี้ก่อน
ยังต้องลุ้นว่าต้นธันวาคมจะได้ตั้งบิ๊กรอยไปเป็นเลขาธิการสมช.หรือไม่!?
วงค์ ตาวัน