เมืองไทย 25 น.
ทวี มีเงิน
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านได้มีการแชร์ข้อมูลจากรายงานข่าวของ “สำนักข่าวเอพี” เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นี้ รายงานโดย “มาธาร์ เมนโดซา” และ “มาร์กี้ เมสัน” เรื่องค้ามนุษย์โดยระบุว่า เรือประมงในรัฐฮาวายมีชาวประมงต่างชาติถูกนำไปจับปลาในเรือของสหรัฐ ชาวประมงเหล่านี้ถูกกระทำไม่ต่างจากทาสที่ได้รับค่าแรงชั่วโมงละ 70 เซ็นต์ จากค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลกลาง ชั่วโมงละ 7.25 ดอลลาร์ ต้องทำงานวันละ 20 ชั่วโมง
ที่สำคัญคนเหล่านี้ไม่สามารถเหยียบแผ่นดินสหรัฐ เพราะไม่มีวีซ่าจึงไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมายแรงงานสหรัฐ ทำให้ถูกกดขี่แรงงานอย่างหนัก
สำนักข่าวเอพีของสหรัฐรายงานเรื่องค้ามนุษย์มาเป็นเวลา 1 ปี มีแรงงานทาสหลายพันคนที่ได้รับการช่วยเหลือจากอินโดนีเซีย ล่าสุด ประธานาธิบดี “บารัก โอบามา”ได้สั่งห้ามสินค้าประมงที่มาจากแรงงานทาสเข้าไปขายในสหรัฐ
น่าสนใจตรงที่แรงงานทาสเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้านเราในอาเซียนนี่เอง มีทั้ง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม และยังมาจากประเทศเล็กๆ ที่ชื่อ ครีบาติ ในมหาสมุทรแปซิฟิก โชคดีที่ไม่มีแรงงานจากประเทศไทยเข้าไปอยู่ในวงจรอุบาทว์นี้
ในรายงานข่าวนี้ค่อนข้างละเอียด แต่ที่หยิบมานำเสนอคร่าวๆ และบางแง่มุมเพื่อจะชี้ให้เห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในพรมแดนของอเมริกา ผู้ทำหน้าที่ตำรวจโลกกวาดล้างขบวน การค้ามนุษย์ก็ปล่อยให้มีปัญหาขึ้น ไม่ได้ต่างจากที่เกิดในประเทศไทยและอีกหลายๆ ประเทศที่รัฐบาลสหรัฐทำรายงานตำหนิ ดังนั้นครั้งนี้จึงเข้าลักษณะเป็นอิเหนา คือ “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง”
ตอนที่สหรัฐกล่าวหาไทยค้ามนุษย์ได้ปรับลดอันดับของไทยจากเทียร์ 2 ลงมาเทียร์ 3 และกำหนดเงื่อนไขว่าจะใช้เวลา 90 วัน แล้วตัดสินใจว่าจะ“คว่ำบาตร” ไทยหรือไม่ จนเป็นที่ฮือฮาว่างานนี้มีอะไรอยู่เบื้องหลังการถ่ายทำ
หากคราวนั้นไทยถูกคว่ำบาตร ย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าอาหารทะเลและอาหารแช่เยือกแข็งและกุ้งส่งออกของไทยไปยังสหรัฐ ยังอาจจะลามไปถึงความเชื่อมั่นการลงทุนและความช่วยเหลือด้านต่างๆ ตามมา แม้ไทยจะถูกเลื่อนอันดับกลับมาอยู่เทียร์ 2 แล้ว แต่ภาพลักษณ์ที่เสียไปแล้วกู้กลับคืนยาก
วันนี้ อเมริกาถูกสื่อของอเมริกาเองเปิดโปง แม้ไม่มีใครไปลดอันดับ แต่ก็สะเทือนเครดิตมหาอำนาจที่มีปัญหาค้ามนุษย์ซุกอยู่เช่นกัน
