เกาเหลาทีมเศรษฐกิจ ปัญหาที่แก้ไม่ตก

เมืองไทย 25 น.

ทวี มีเงิน

ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเลือกตั้งหรือลากตั้ง พรรคเดียวกันหรือหลายพรรคคุม “กระทรวงเศรษฐกิจ” มักจะซด “เกาเหลา” กันบ่อยๆ แม้แต่รัฐบาลนี้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทีมงานล้วน “พวกเดียวกัน” น่าจะมี “เอกภาพ” ในการทำงานมากกว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้งที่มีหลายพรรคหลายพวก

แต่ก็ยังเกิดกรณี “เกาเหลา” ในทีมเศรษฐกิจจนได้

ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล “บิ๊กตู่” ทั้ง 2 ชุด เป็นส่วนผสมระหว่าง “เทคโนแครต” ฟากหนึ่ง กับ “สายทหาร” ฟากหนึ่ง กรอบแนวคิดในการทำงานจึงต่างกันแบบสุดโต่ง ชุดแรกมี “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล หัวหน้าทีม

ในครั้งนั้นมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” ที่ดูแลกระทรวงพาณิชย์ “ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในสายทหาร” ว่ากันว่า มี “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ยืนตระหง่านอยู่ข้างหลังคอยช่วยงาน อยู่ ก็ซดเกาเหลากับ “หม่อมอุ๋ย”

จนหลายคนสังเกตว่า “พล.อ.ฉัตรชัย” ไม่เคยเข้าร่วมหารือในทีมเศรษฐกิจที่มี “หม่อมอุ๋ย” นั่งหัวโต๊ะทุกเช้าวันจันทร์ ที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งที่สินค้าส่งออกของไทยกำลังเผชิญปัญหา “ส่งไม่ออก” ติดๆ กันอย่างต่อเนื่อง แก้เศรษฐกิจซบเซาไม่ได้

กระทั่งมีเสียงเรียกร้องให้เปลี่ยนทีมใหม่ โดยมี “ดร.สมคิด” เป็นหัวหน้าทีมมารับไม้ต่อ และโยกพล.อ.ฉัตรชัยจากกระทรวงพาณิชย์ข้ามมากระทรวงเกษตรฯ

ปัญหาเดิมๆ เมื่อทีมเศรษฐกิจอีกฟากหนึ่งมาจาก “ทหาร” ที่อยู่ในความดูแลของ “พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง” มีเพียง “พล.อ.ฉัตรชัย” ที่อยู่ในทีม ดร.สมคิด แต่ก็มีข่าวเป็นระยะๆ ว่า “ดร.สมคิด” กินเกาเหลากับ “พล.อ.ฉัตรชัย” ที่คุ้นเคยกันอย่างดี

ปัญหาดังกล่าว “สะท้อนถึงความไม่เป็นเอกภาพ” ของทีมเศรษฐกิจที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก

ปมขัดแย้งเริ่มชัดจากกรณีที่กระทรวงการคลังเสนอให้ ครม. มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1 พันบาท รายละ 10 ไร่ วงเงินกว่า 3.7 หมื่นล้านบาทผ่าน “ธ.ก.ส.” ทั้งที่ก่อนหน้านี้กระทรวงเกษตรฯ เสนอมาตรการความช่วยเหลือไปก่อนแล้ว

ว่ากันว่าบรรยากาศการประชุมเครียดหนัก เมื่อ “พล.อ.ฉัตรชัย” ทุบโต๊ะกลางที่ประชุมพร้อมส่งแฟ้มกลับคืนให้คลังพิจารณาใหม่ เท่ากับตอกย้ำว่าทีมเศรษฐกิจร้าวลึก เป็นการยืนยันที่หลายคนตั้งข้อ สังเกตว่าทำไมโจ๊กยามเช้าของ ครม.เศรษฐกิจจึงไร้เงาพล.อ.ฉัตรชัย

เกาเหลาครั้งแรกกระทบกับการแก้ปัญหาส่งออก แต่เกาเหลา ครั้งนี้กระทบกับการแก้ปัญหาเกษตรกร ตรงๆ

ต้องดูว่า “บิ๊กตู่” จะใช้ศิลปะการบริหารความขัดแย้งนี้อย่างไร